ระหว่างวันที่ 17-19 เมษายนที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน นับเป็นการเยือนจีนครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ช่วงการเยือนจีน สองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วม โดยประกาศว่า จะสร้างความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างจีน-ไทย นักวิเคราะห์เห็นว่า การเยือนจีนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีไทยครั้งนี้ไม่เพียงมีส่วนช่วยต่อการขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่างจีน-ไทยเชิงกว้างเท่านั้น หากยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียตะวันออกด้วย
ช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีเยือนจีน จีนและไทยตกลงจะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีจากความสัมพันธ์ที่ร่วมมือกันทางยุทธศาสตร์มาเป็นความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้าน แถลงการณ์ร่วมระหว่างจีน-ไทยระบุว่า สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะใช้มาตรการที่เหมาะสมและจำเป็นใน 13 สาขา ซึ่งครอบคลุมความมั่นคง การค้า การคมนาคม การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม เพื่อร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้านให้คืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ
นายสวี่ ลี่ผิง รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถาบันเอเซียแปซิฟิค สภาสังคมวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนแสดงความเห็นว่า การยกระดับความสัมพันธ์ที่ร่วมมือกันทางยุทธศาสตร์มาเป็นความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้านนั้นหมายความว่า จากนี้ไปจีนและไทยจะดำเนินความร่วมมือในทุกด้าน ซึ่งจะขยายความร่วมมือระหว่างสองประเทศเชิงกว้างอย่างมาก
ช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีเยือนจีน จีนและไทยลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ฉบับที่ 2 และแผนการพัฒนาระยะ 5 ปีว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้า โดยครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ การค้า ผลิตผลการเกษตร การป้องกันและต่อต้านอุทกภัย และภัยแล้ง การพัฒนาการรถไฟ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการกำหนดแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทยในอนาคต
นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยกล่าวว่า โครงการความร่วมมือรถไฟความเร็วสูงที่จีนและไทยกำลังดำเนินอยู่นั้นเป็นเครือข่ายการเชื่อมโยงจีนกับอาเซียนให้เข้าด้วยกัน และเป็นการส่งเสริมการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคนี้ให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานให้แก่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้าเชิงลึกของสองฝ่าย
นักวิเคราะห์เห็นว่า ไทยเป็นประเทศสมาชิกสำคัญของอาเซียน จีนและไทยตกลงสร้างความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้านนั้น มีความหมายสำคัญยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียน รวมทั้งสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคด้วย
แถลงการณ์ร่วมยังระบุว่า ไทยในฐานะประเทศประสานความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อาเซียนประเทศถัดมา จะร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด ร่วมกันผลักดันความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน-อาเซียนให้คืบหน้าต่อไป นอกจากนี้ ไทยในฐานะประธานฝ่ายอาเซียน
ของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน จะร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคนี้
(YIM/cai)