ในที่ประชุมระดับรัฐมนตรี "กลุ่มปฏิบัติการ" เกี่ยวกับปัญหาซีเรียที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น เนื่องจากการรัสเซียยืนหยัดจุดยืนของตน ทำให้แผนการเฉพาะกาลทางการเมืองซีเรียไม่สามารถกำหนดว่า นายบาชาร์ อัล อัสซ๊าดต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ และวันที่ 1 กรกฏาคมที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกล่าวปฏิเสธร่วมจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลกับนายบาชาร์ อัล อัสซาด และเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีมติที่ผ่านในการประัชุมเกี่ยวกับปัญหาซีเรียมีข้อกำหนดสำคัญว่า "ควรจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลบนพื้นฐานจากความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย" ซึ่งการนี้หมายถึงฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันและฝ่ายต่อต้านต่างมีสิทธิ์ปฏิเสธ ดังนั้น การที่ฝ่ายต่อต้านปฏิเสธร่วมจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลกับนายบาชาร์ อัล อัสซ๊าดนั้น ทำให้แผนการเฉพาะกาลประสบความล้มเหลว
รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มต่อต้านขนาดเล็กบางกลุ่มหวังว่า แผนการเฉพาะกาลจะมีส่วนช่วยให้ปฏิบัติตาม "ข้อเสนอ 6 ประการ" ของนายโคฟี อันนัน ดีตเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดภายในประเทศ แต่ฝ่ายต่อต้านกลุ่มอื่นๆ รวมถึง "สภาแห่งชาติ" ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านสำคัญที่สุดของซีเรียประณามว่า ประเทศตะวันตกที่เข้าร่วมการประชุมนั้น ฝ่าฝืนภารกิจของพวกเขา และกล่าวว่า การประชุมในวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ไม่ได้กำหนดกลไกและเวลาอย่างเป็นรูปธรรม สิ่งที่เรียกว่า "รัฐบาลเฉพาะกาล" และ "การถ่ายโอนอำนาจ" ล้วนเป็นคำโกหกทั้งสิ้น
นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า แผนการเฉพาะกาลทางการเมืองซีเรียประสบความล้มเหลวนั้น หมายถึงการปะทะด้วยกำลังอาวุธภายในซีเรียยังคงดำเนินการต่อไป แต่จะขยายขนาดและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นหรือไม่ ยังต้องเฝ้าสังเกตการณ์ต่อไป เพราะว่า รัฐบาลปัจจุบันที่นำโดยนายบาชาร์ อัล อัสซาดยังคงมีอำนาจแข็งแกร่ง ส่วน กำลังรบของ "กองทหารอิสระซีเรีย" ซึ่งเป็นกองกำลังอาวุธฝ่ายต่อต้านยังคงอ่อนแอมากเหากเทียบกับกองกำลังรัฐบาล
(Ying/Lin)