เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายวอลแตร์ กาซมิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์กับนายซาโตซิ โมริโมโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้ลงนามในบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ หลังจากสิงคโปร์และเวียดนามเป็นต้น ฟิลิปปินส์นับเป็นประเทศที่ 9 ที่ลงนามกับญี่ปุ่นในบันทึกประเภทนี้
ในบันทึกช่วยจำฉบับนี้ มีเนื้อหาสองประการที่น่าสนใจ คือเกี่ยวพันถึง "เสรีภาพการเดินเรือ" ในปัญหาโต้แย้งกับจีนเกี่ยวกับหมู่เกาะต่างๆ นั้น ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ล้วนถือ "เสรีภาพการเดินเรือ" เป็นข้ออ้าง แต่ความจริง จีนไม่เคยจำกัด"เสรีภาพการเดินเรือ" แต่ทุกครั้งที่ขบวนเรือรบของจีนเดินผ่านทะเลสากลเพื่อไปฝึกซ้อมที่มหาสมุทรแปซิฟิก ล้วนถูกฝ่ายญี่ปุ่นติดตาม และสื่อมวลชนญี่ปุ่นยังรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ใครเป็นฝ่ายที่ถูกผลกระทบจาก"เสรีภาพการเดินเรือ" ของประเทศอื่น จึงเป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว
นอกจากนี้ บันทึกดังกล่าวยังระบุว่า ความร่วมมือในการป้องกันประเทศระหว่างญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัย รักษาสันติภาพ และความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟิลิปปินส์มักกล่าวอ้างในการดำเนินความร่วมมือกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา แต่ความจริงเป็นความร่วมมือทางการทหาร เช่นเดียวกับพลังงานนิวเคลียร์ทั้งนำมาผลิตไฟฟ้าและสร้างอาวุธได้ด้วย
ระยะหลังๆ นี้ ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์มีการแลกเปลี่ยนด้านการป้องกันทางทะเลบ่อยครั้ง เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว นายเบนีโญ ากีโนที่ 3 เยือนญี่ปุ่น ขณะพบปะกับนายโยซิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนั้น ได้กล่าวถึงปัญหา "สันติภาพและเสถียรภาพของทะเลจีนใต้" และ "หลักประกันเสรีภาพการเดินเรือในทะเลจีนใต้" และเนื่องจากเหตุการณ์เกาะหวงเหยียน กองทหารป้องกันประเทศทางทะเลของญี่ปุ่นได้จัดส่งเรือฝึกซ้อม 3 ลำไปเยือนฟิลิปปินส์เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนรัฐบาลญี่ปุ่นก็แสดงว่า มีแผนจะเสนอเรือลาดตระเวนจำนวน 12-13 ลำแก่ฟิลิปปินส์
Ton/Lr