น.หลี่ เจ๋อ (ซ้าย) จอหงวนสายวิทย์ น.ส.หาน มู่ฉิน (ขวา) จอหงวนสายศิลป์

ของกรุงปักกิ่งประจำปี 2012

เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีการประกาศผลการสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัย หรือ การสอบเอ็นทรานซ์ ของมณฑลต่างๆ ทั่วประเทศจีน ต่อจากนั้น นักเรียนผู้สอบต่างตั้งใจอยู่กับการกรอกแบบฟอร์มสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตามคะแนนการสอบของตัวเองและเกณฑ์คะแนนที่กำหนดไว้ ส่วน "จอหงวน" อันดับที่ 1 ของการสอบเอ็นทรานซ์ได้อันดับที่ 1 ของแต่ละมณฑลจะ "เนื้อหอม" โดยแต่ละมหาวิทยาลัยต่างแย่งชิงกัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้ทุกปี

จอหงวนผู้สอบเอ็นทรานซ์สายศิลป์และสายวิทย์ปี 2012 ของกรุงปักกิ่งเรียกความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก ข่าวระบุว่า ก่อนสอบ ทั้งสองคนได้รับการเสนอให้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยชิงหวาตามลำดับ และไม่ได้สมัครเรียนต่อต่างประเทศด้วย

หาน มู่ฉิน จอหงวนสายศิลป์ของกรุงปักกิ่ง

หาน มู่ฉิน จอหงวนสายศิลป์ของกรุงปักกิ่งสอบเอ็นทรานซ์ได้คะแนนรวม 670 คะแนน

ครูบอกว่า หาน มู่ฉินมีความจริงจังและมุ่งมั่นในการเรียนมาก เป็นคนติดดิน ถ่อมตัว มีศักยภาพการเรียนเข้มแข็ง ประสิทธิภาพสูง มีความเข้าใจอย่างรวดเร็ว เข้านอนก่อน 23.00 น. เธอตั้งใจจะเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งตั้งแต่เด็ก วิชาที่สมัครเรียนคือ สถาบันหยวนเผยแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งเป็นสถาบันอบรมบุคลากรระดับหัวกะทิ ส่วนกีฬาที่ชื่นชอบคือ ฟุตบอล และมีทีมในดวงใจคือ ทีมชาติอังกฤษ

หาน มู่ฉินบอกว่า พ่อแม่สร้างบรรยากาศเปิดกว้างในครอบครัว ไม่กำหนดกฎเกณฑ์กับลูกมากนัก และให้ความเคารพแก่การตัดสินใจของลูก ช่วงปิดเทอมนี้ เธออยากจะท่องเที่ยวและฝึกขับรถยนต์ เธอมีคำแนะนำกับรุ่นน้องว่า สภาวะจิตใจใน ม.6 นั้นสำคัญมาก ต้องเตรียมรับมือกับการสอบต่างๆ ด้วยความกล้าหาญ

หลี่ เจ๋อ จอหงวนสายวิทย์ของกรุงปักกิ่ง

หลี่ เจ๋อ จอหงวนสายวิทย์ของกรุงปักกิ่งสอบเอ็นทรานซ์ได้คะแนนรวม 712 คะแนน เขาเคยได้รับรางวัลที่ 1 ของการแข่งขันเคมีโอลิมปิก วิชาที่สมัครเข้าเรียนคือ สถาบันการบริหารเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยชิงหวา นอกจากนี้ เขายังถนัดในการอ่านบทกวี (การร่ายบทกวี) การเป็นพิธีกร และการโต้วาที

หลี่ เจ๋อบอกว่า คะแนนที่ได้รับมา ต้องขอบคุณครูและผู้ปกครองที่ให้ความช่วยเหลือมาก "่หนึ่งวันก่อนสอบ พ่อแม่พาผมไปเล่นแบดมินตัน บอกผมว่าไม่ต้องอ่านหนังสือ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ผมขอขอบคุณพ่อแม่มาก ถึงแม้เขาทั้งสองไม่เคยมีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัยก็ตาม แต่เขารู้วิธีสั่งสอนผม ช่วงนั้นผมเครียดมากจริงๆ การเล่นบอลทำให้ผมผ่อนคลายได้ไม่น้อย"

สำหรับการสมัครเรียนนั้น คุณพ่อก็ไม่ได้บังคับ เพียงแต่บอกว่า "สมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและวิชาที่ลูกชื่นชอบ"

หลี่ เจ๋อ ตัวสูง 1.87 เมตร เขาบอกว่า ช่วงปิดเทอมอยากจะออกกำลังกาย เมื่อเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแล้ว จะฝึกแบดมินตันให้เชี่ยวชาญมากขึ้น

(YING /LING)