วันที่ 6 สิงหาคมนี้ สถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียรายงานว่า นายบาซาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียปลดนายริยาด ฟาริด หิจาบออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายโอมาร์ กาลาวันจี รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี
ทางการซีเรียไม่ได้อธิบายเหตุผลของการปลดนายหิจาบ และไม่ได้กล่าวถึงเรื่องที่นายหิจาบหันไปเข้าข้างฝ่ายต่อต้าน แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง เขาจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดที่ถูกปลดออกจากรัฐบาลซีเรียตั้งแต่ซีเรียเกิดการปะทะภายในประเทศเมื่อปีที่แล้วเป็นต้นมา
ความจริง นายหิจาบไม่ใช่เจ้าหน้าที่คนแรกที่แปรพักตร์ต่อรัฐบาล และก็ไม่ใช่บุคคลที่สำคัญที่สุด แม้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เขาไม่มีต่ำแหน่งสูงในพรรครัฐบาล เมื่อเดือนที่แล้ว นายพลจัตวามานาฟ ทลาส กองทัพซีเรียแปรพักตร์ ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญในความแตกแยกของแกนนำอำนาจรัฐ เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีอีกหลายคนเสียชีวิตจากการโจมตีด้วยระเบิดของฝ่ายต่อต้าน ซึ่งก็ส่งผลกระทบมากต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
ส่วนด้านการทหารและการต่างประเทศ รัฐบาลซีเรียก็สูญเสียความได้เปรียบเรื่อยๆ ในเมืองอเลปโป เมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของซีเรีย เกิดการสู้รบอย่างดุเดือด แหล่งข่าวแจ้งว่า ฝ่ายต่อต้านได้รับการช่วยเหลือด้านอาวุธหนักจากต่างประเทศ จึงมีขีดความสามารถที่จะท้าทายกับรัฐบาลอีก ส่วนอิทธิพลต่างๆ ที่นำโดยสันนิบาตอาหรับ ล้วนเข้าข้างฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เช่นซาอุดีอาระเบีย และตุรกี ต่างให้ความช่วยเหลือแก่ฝ่ายต่อต้าน ประเทศตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ จึงสร้างข้าวเกี่ยวกับรัฐบาลซีเรียสังหารหมู่ประชาชนในประชาคมโลก เช่นสหประชาชาติ เพื่อโดดเดี่ยวอำนาจรัฐซีเรีย
แต่ทว่าอำนาจรัฐซีเรียปัจจุบันแค่เพียงไม่มั่นคง ยังไม่ถึงขั้นพังทะลาย เพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่แปรพักตร์หนีไปเพียงคนเดียว ไม่ได้พาทหารสักนายไปด้วย ศาสตรจารย์อู๋ ปิงปิง คณะภาษาอาหรับ มหาวิทยาลัยปักกิ่งเห็นว่า ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การแปรพักตร์เป็นพฤติกรรมส่วนตัวของบุคคลเหล่านี้ รัฐบาลซีเรียยังควบคุมประเทศอยู่ นอกจากนี้ กองทัพซีเรีย ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่สุดของรัฐบาลปัจจุบัน ยังจงรักภักดีต่อนายบาซาร์ ซึ่งมีความแตกต่างกันกับขณะที่เกิดวิกฤตซีเรียอย่างเห็นได้ชัด
In/Lr