สำหรับประเทศเศรษฐกิจใหม่ อัตราการเติบโตของซีพีไอเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 3% โดยปกติ ในเดือนกุมภาพันธ์ ซีพีไอของจีนเข้าสู่ช่วงการเติบโต 3% (3.2%) แต่ในเดือนมิถุนายน ได้เข้าสู่ช่วงการเติบโต 2% (2.2%) ตลอดจนเดือนกรกฎาคม ซีพีไอเพิ่มขึ้นเพียง 1.8% ในเวลาเพียงครึ่งปี นางเฉิน เฟิ่งอิง อธิบดีสำนักงานเศรษฐกิจโลกของสถาบันศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศปัจจุบันของจีน กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า ซีพีไอของจีนลดลงต่อเนื่องกันทุกเดือน เพราะได้รับผลกระทบจากการซบเซาลงของสภาพรวมเศรษฐกิจโลก การลดน้อยลงของแรงกดดันจากการนำเข้าเงินเฟ้อ (Imported inflation) และการลดลงของราคาอาหาร ซึ่งเป็นสภาพชั่วคราว ไม่ได้บ่งบอกว่า การเติบโตของซีพีไอจะเข้าสู่ช่วงการเติบโต 1%
นางเฉิน เฟิ่งอิง กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นสภาพระยะสั้นและชั่วคราว เนื่องจากสภาพความเป็นจริงที่มีมาตลอดว่า แรงกดดันทางสภาพเงินเฟ้อยังมีอยู่ ซึ่งก็คือราคาธัญญาหารเพิ่มขึ้นอย่างมาก และราคาน้ำมันก็เพิ่มสูงขึ้นอีก อีกทั้งนโยบายการไหลเข้า-ออกเงินทุนผ่อนคลายลง จึงไม่มีเหตุผลที่บอกว่า ซีพีไอจะเข้าสู่ช่วงการเติบโต 1%
พร้อมวิเคราะห์ว่า แนวโน้มการลดลงไม่สามารถดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพราะเดือนกรกฎาคมเป็นสภาพการณ์พิเศษ ซึ่งแสดงให้เห็นจากราคาสินค้ารายใหญ่ ราคาพลังงาน และราคาธัญญาหารในดือนสิงหาคม ถ้าลดลงต่อไป เราอาจต้องใช้มาตรการทางนโยบายเงินตราอีกขั้น นางเฉิน เฟิ่งอิง ยังคาดอีกว่า ในเดือนสิงหาคม การเติบโตของซีพีไอจะสูงกว่า 1.8% อย่างแน่นอน และก็อาจเป็นไปได้ที่จะกลับไปสู่ขนาดการเติบโตที่ 2%
Ton/Chu