เหลียง เฉาเหว่ย

ชื่อเล่น ไหว่ไจ๋

วันเกิด 27 มิถุนายน พ.ศ. 2505 (50 ปี)

บ้านเกิด ฮ่องกง

คู่สมรส หลิว เจียหลิง(พ.ศ. 2551 - ปัจจุบัน)

ชื่ออื่น โทนี่ เหลียง โทนี่ เหลิ่ง ฉิ่วไว

ผลงานเด่น อุ้ยเสี่ยวป้อ ใน อุ้ยเสี่ยวป้อ

ฉิวยิ่นเคอะ ใน ศึกลำน้ำเลือด

เตียบ่อกี้ ใน ดาบมังกรหยก

เซียวฮื้อยี้ ใน เดชเซียวฮื้อยี้

มร. ยี ใน Lust, Caution

เหยิน ใน Infernal Affairs

623 ใน Chungking Express

จิวยี่ ใน Red Cliff

ประวัติ

เหลียง เฉาเหว่ย เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) ที่ฮ่องกง ในครอบครัวที่ยากจน เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการชักชวนของโจว ซิงฉือ ให้เข้าเรียนในโรงเรียนการแสดงของทีวีบี จากนั้นมีงานในวงการบันเทิงครั้งแรกเป็นพิธีกรในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก ก่อนที่จะเป็นที่จับตามองจากการรับบทตำรวจในซีรีส์เรื่อง "นักสู้ผู้พิทักษ์ (Police Cadet '84)" ปี พ.ศ. 2527 และชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการรับบททะเล้น เช่น เตียบ่อกี้ ในดาบมังกรหยก ของทีวีบีในปี พ.ศ. 2526 และในบท เซียวฮื้อยี้ ในเดชเซียวฮื้อยี้ ในปีเดียวกัน จนได้รับการจัดให้เป็น 1 ใน 5 พยัคฆ์ทีวีบี ซึ่งประกอบไปด้วย หวง เย่อหัว, เหมียว เฉียวเหว่ย, ทัง เจิ้นเย่, หลิว เต๋อหัว และเหลียง เฉาเหว่ย ที่อายุน้อยที่สุด

ผลงานภาพยนตร์ที่เด่น ๆ ได้แก่ Bullet in the Haed ในปี พ.ศ. 2533, ของ จอห์น วูDays of Being Wild ในปี พ.ศ. 2534 Ashes of Time ในปี พ.ศ. 2537 Chungking Express ในปีเดียวกัน Happy Together ในปี พ.ศ. 2540 In the Mood for Love ในปี พ.ศ. 2543 โดยทั้งหมดเป็นผลงานกำกับของ หว่อง คาไว

ผลงานในระยะหลัง ๆ ได้แก่ Tokyo Raiders ในปี พ.ศ. 2543, Infernal Affairs และ Hero ในปี พ.ศ. 2546 Infernal Affairs III ในปี พ.ศ. 2550 และรับบท จิวยี่ ใน Red Cliff ในปี พ.ศ. 2551 เป็นต้น

นอกจากนี้แล้ว เหลียง เฉาเหว่ย ยังมีผลงานเพลงในแบบภาษากวางตุ้งอีกหลายเพลงด้วย โดยมากจะเป็นเพลงประกอบซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่เจ้าตัวแสดง เช่น ศึกลำน้ำเลือด หรือ ดาบมังกรหยก เป็นต้น

ชีวิตส่วนตัว เหลียง เฉาเหว่ย สมรสกับนักแสดงสาว หลิว เจียหลิง ที่คบหากันมาหลายปีตั้งแต่ พ.ศ. 2532 และจัดพิธีสมรสเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ที่ประเทศภูฏาน

เหลียง เฉาเหว่ย

ผลงานที่ผ่านมา

ภาพยนตร์

(เสี้ยวชีวิตพรหมลิขิตโหด)/ The Lunatics (1986)

(ระห่ำ แล้วโลกจะรู้จัก)/ I Love Maria (1988)

(7 มหาประลัย)/ 7 Warriors (1989)

Bullet In The Head (1990)

Days Of Being Wild (1990)

The Great Pretenders (1991)

A Chinese Ghost Story 3 (1991)

(โปเยโปโลเย คนเลี้ยงผี)/ Fantasy Romance (1991)

(เพื่อเพื่อนสับมันเลย)/ The Tigers (1991)

Hard Boiled (1992)

(เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด)/ Days of Being dumb (1992)

(มังกรหยกหยกก๊าหว่า)/ Eagle Shooting Heroes (1993)

(กระบี่ผีเสื้อบารมีสะท้านภพ)/ Butterfly Sword (1993)

(คัมภีร์กระเรียนเซียนเหยียบฟ้า)/ The Magic Crane (1993)

(อุ้ยเสี่ยวป้อ เจาะเวลาทะลุโลก)/ Hero From Beyond The End of Time (1993)

(ผู้หญิงผมทอง ฟัดหัวใจให้โลกตะลึง)/ Chungking Express (1994)

(มังกรหยก ศึกอภิมหายุทธ)/ Ashes of Time (1994)

(ลูกผู้ชายหัวใจไม่บานฉ่ำ)/ Doctor Mack (1995)

(โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา)/ Happy Together (1997)

97 Aces Go Places (1997)

(ขังโหดนรกเดือด)/ Chinese Midnight Express (1997)

The Longest Nite (1998)

เป็นนักแสดงชายที่หน้าดูหนุ่มตลอดกาล

Gorgeous (2000)

Tokyo Raiders (2000)

In the Mood for Love (2000)

(สองสายใย ไม่มีวันเลือน)/ Healing Hearts (2000)

(ฮีโร่)/ Hero (2002)

Infernal Affairs (2002)

Infernal Affairs 3 (2003)

2046 (2004)

Seoul Raiders (2005)

Confession Of Pain (2006)

(เล่ห์ราคะ)/ Lust,Caution (2007)

Red Cliff (2008)

(สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ 2)/ Red Cliff Part 2 (2009)

ยอดพยัคฆ์ นักมายากล (2012)

The Grand Masters (2012)

[แก้] ละครโทรทัศน์

(เทพบุตรสลัม)/ Soldier of Fortune (1982)

The Superpower (1983)

(ขวัญใจโปลิศ)/ Police Cadet (1984)

The Duke of Mount Deer (1984)

The Rough Ride (1985)

Police Cadet '85 (1985)

(ขุนศึกตระกูลหยาง)/ The Yang's Saga (1985)

(ดาบมังกรหยก)/ New Heaven Sword and Dragon Sabre (1986)

The Grand Canal (1987)

(ขวัญใจโปลิศ ภาค 3)/ Police Cadet '88(1988)

Two Most Honourable Knights (1988)

Hap Hak Hang (1989)

รักเดียวในใจ "เหลียงเฉาเหว่ย" คือ "เจิงหัวเชี่ยน" เพื่อนรักภรรยา

ภายยนตร์ล่าสุด "wind seeker"

หากจะย้อนกลับไปเมื่อสักประมาณ 20 ปีก่อนคงไม่มีความบันเทิงใดครองใจชาวเอเชียได้เท่ากับละครชุดฮ่องกงอย่างแน่นอน ซี่งเป็นยุคทองของดารานักแสดงในสมัยนั้นก็ว่าได้ ไม่เพียงเงินทองที่จะไหลเข้าสู่กระเป๋ายังมีชื่อเสียงความโด่งดังที่เขาและเธอจะได้รับ เพราะในยุคนั้นสมัยนั้นดารานักแสดงยังมีไม่มากคู่แข่งไม่เยอะเท่าปัจจุบัน ยิ่งฝีไม้ฝีมือดีก็ยิ่งส่งให้เป็นซุปตาร์ดาวค้างฟ้าได้อย่างไม่ยากเย็นเข็นใจเลยแม้แต่น้อย

อย่างเธอสองคนนี้ "หลิวเจียหลิง" และ "เจิงหัวเชี่ยน" สองสาวดาวค้างฟ้า ที่ครั้งหนึ่งต้องเกือบผิดใจกันด้วยเรื่องผู้ชายหนุ่มหล่อระดับพระเอกอย่าง "เหลียงเฉาเหว่ย" ไปซะแล้ว จนได้ฉายา "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" คู่แรก ๆ ของวงการบันเทิง แต่สุดท้ายมิตรภาพความเป็นเพื่อนก็สามารถเอาชนะความขุ่นข้องหมองใจทุกๆ เรื่องได้อย่างราบคาบจริงๆทั้ง "หลิวเจียหลิง" และ "เจิงหัวเชี่ยน" ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ต่างคนต่างมีครอบครัวที่อบอุ่นเป็นของตัวเอง และหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้าตามแนวที่ตนเองถนัดกันไป

"เจิงหัวเชี่ยน" หันไปเอาดีทางด้านการเป็นดีเจ และพิธีกรจนมีรายการเป็นของตนเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเนื่องด้วยโอกาสดีในค่ำคืนก่อนวันตรุษจีนปีมังกรทอง 22 มกราคมที่ผ่านมานี้ "เจิงหัวเชี่ยน" ได้เชิญสหายรักอย่าง "หลิวเจียหลิง" มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ เพื่อสัมภาษณ์พูดคุยกันอย่างเป็นกันเองในทุกซอกทุกมุมของชีวิต "หลิวเจียหลิง" โดยเฉพาะเรื่องราวชีวิตคู่ระหว่างเธอกับ "เหลียงเฉาเหว่ย" ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และเมื่อ "หลิวเจียหลิง" ได้รับคำเชื้อเชิญจากเพื่อน ก็ไม่ขัดศรัทธาพร้อมขึ้นแท่นให้เพื่อนรักสัมภาษณ์อย่างเปิดอกในทุกเรื่องจริง

ในค่ำคืนนั้นบรรยากาศในรายการชื่นมื่นสุดๆ สองสาวพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ เหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานพูดคุยกันมากกว่าพิธีกรสัมภาษณ์แขกรับเชิญ และเรื่องที่สองสาวคุยกันสนุกปากที่สุดคงหนี้ไม่พ้นเรื่องราวของอดีตแฟนหน่มของคนหนึ่งและสามีในปัจจุบันของอีกคนหนึ่งอย่าง "เหลียงเฉาเหว่ย" ไปได้ "หลิวเจียหลิง" พูดติดตลกว่า ที่ "เจิงหัวเชี่ยน" ไหวตัวทันเลิกลากับ "เหลียงเฉาเหว่ย" ไปก่อน นั่นคือความโชคดีในชีวิตแล้ว เพราะตอนนี้ตนเองต้องมารับกรรมแทนแล้ว ชีวิตคู่ของตนที่ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับ "เหลียงเฉาเหว่ย" นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เขาเป็นคนเรื่องมากแบบสุดๆ นิสัยเหมือนเด็กเอาใจยาก เป็นคนเลือกรับประทานแบบสุดๆ โน่นก็ไม่ชอบนี่ก็ไม่กิน ไม่ได้เลือกเพียงรสชาติอาหารเท่านั้น หน้าตาสีสันอาหารก็ต้องดูดีด้วยไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่กินโดยเด็ดขาด แถม "เหลียงเฉาเหว่ย" ยังเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงไม่ค่อยสนใจคนอื่น ไม่มีความโรแมนติก ไม่ค่อยเทคแคร์คนอื่น ตอนนี้เธอก็ชินชาแล้วและต้องเป็นฝ่ายดูแลเทคแคร์เขามากกว่า ซึ่งตรงนี้ต่างกับสามีของ "เจิงหัวเชี่ยน" โดยสิ้นเชิง และยิ่งไปกว่านั้นวันดีคืนดี ถ้า "เหลียงเฉาเหว่ย" รับบทบาทแสดงอะไร เขาก็จะออกอาการอินจัดเอาพฤติกรรมและอารมณ์ของบทนั้นกลับมาใช้ที่บ้านด้วย แบบควบคุมตัวเองไม่ได้จริง ๆ ผู้เป็นภรรยาอย่าง "หลิวเจียหลิง" ก็เลยต้องรับศึกหนัก

ร่วมกิจกรรมกับโจว ซวิ่น

"หลิวเจียหลิง" ยังเปิดอกเล่าต่ออีกว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับ "เหลียงเฉาเหว่ย" ณ.ปัจจุบันไม่ใช่เป็นเพียงสามีภรรยาหรือคู่รักเท่านั้น ได้เปลี่ยนไปเป็นความสัมพันธ์แบบแม่กับลูกชายซะแล้ว และในบ้างครั้งก็เป็นแบบผู้จัดการกับศิลปินฯลฯ เมื่อ "เจิงหัวเชี่ยน" ได้ยินถึงกับหัวเราะเสียงดัง "เจิงหัวเชี่ยน" ยังออกปากกล่าวว่า "เหลียงเฉาเหว่ย" เป็นชายที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้ "หลิวเจียหลิง" เป็นภรรยา แถมยังแนะนำให้ "หลิวเจียหลิง" กับ "เหลียงเฉาเหว่ย" มีลูกกันสักคนหนึ่งเพื่อทุกอย่างจะดีขึ้น และเพื่อเปลี่ยนแปลงนิสัยของ "เหลียงเฉาเหว่ย" ด้วย แถมหยอดท้ายด้วยว่าให้มีลูกสาวนะ จะได้จับคู่ให้เป็นเจ้าสาวของบุตรชายตนเอง สร้างเสียงฮือฮาเห็นด้วยจากบรรดาแฟนๆ ของทั้งสามคนได้ไม่น้อยเลยทีเ ดียว

เรื่องราวรักสามเส้าของเค้าและเธอทั้งสองเกิดขึ้นเมื่อประมาณยี่สิบปีมาแล้ว "เจิงหัวเชี่ยน" และ "หลิวเจียหลิง" เป็นนักเรียนการแสดงร่วมรุ่นเดียวกันจริงทำให้เป็นเพี่อนสนิทกันตั้งแต่นั้นมา ส่วนความสัมพันธ์ของ "เจิงหัวเชี่ยน" กับ "เหลี่ยงเฉาเหว่ย" นั้นว่ากันว่าตั้งแต่สมัยที่ "เจิงหัวเชี่ยน" ยังเป็นนักเรียนการแสดงอยู่เลยความสัมพันธ์ของคนทั้งสองก็เป็นแบบรักๆเลิกๆ เอาแน่นอนไม่ได้ "เหลียงเฉาเหว่ย" และ "เจิงหัวเชี่ยน" มีผลงานสร้างชื่อร่วมกันใน "ขวัญใจโปลิศ ภาคสอง" ซึ่งในสมัยยังสาว "เจิงหัวเชี่ยน" ขึ้นชื่อเรื่องความเรื่องมากขี้วีน จึงทำให้ความรักลุ่ม ๆ ดอน ๆ จนมีข่าวงอนเลิกลาแล้วกลับมาคบหากันใหม่กับ "เหลียงเฉาเหว่ย" หลายต่อหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายที่มีข่าวเล็ดลอดออกม าว่า "เหลียงเฉาเหว่ย" หันไปกุ๊กกิ๊กกับเพื่อนรัก "หลิวเจียหลิง" ซะแล้ว ซึ่งเป็นเหตุให้ฉากรักของ "เจิงหัวเชี่ยน" และ "เหลียงเฉาเหว่ย" จบลงอย่างบริบูรณ์ ถึงแม้ไม่ได้แฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างในละคร แต่ต่างคนต่างมีเส้นทางรักของตนเองที่สมบูรณ์แล้ว แม้ว่าจนถึงวันนี้ "หลิวเจียหลิง" เองก็ยอมรับว่าหญิงที่ยังอยู่ในหัวใจของสามีเธอ "เหลียงเฉาเหว่ย" ก็คือเพื่อนรักคนนี้นี่เอง "เจิงหัวเชี่ยน"

ยืนคู่กับหลิว เจียหลิงบนเวที