เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศว่า นายเบนิโญ อาคีโน ที่ 3 ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ลงนามในคำสั่งเปลี่ยนชื่อน่านน้ำภาคตะวันตกของหมู่เกาะฟิลิปปินส์จาก "ทะเลจีนใต้" เป็น "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" ผู้คนสังเกตว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศเรื่องนี้ในขณะที่ปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ระหว่างจีนและญี่ปุ่นอยู่ในช่วงวิกฤตที่อ่อนไหว
เมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 รัฐบาลฟิลิปปินส์ก็เริ่มเปลี่ยนชื่อของน่านน้ำที่มีความขัดแย้งกันระหว่างจีนและฟิลิปปินส์ไปเป็น "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" แล้ว ส่วนสื่อมวลชนของฟิลิปปินส์ก็ใช้คำว่า "ทะเลจีนใต้" และ คำว่า "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" สองคำนี้พร้อมกัน ความจริง คำสั่งของเบนิโญ อาคีโน ที่ 3 ฉบับนี้ได้ลงนามเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ที่ฟิลิปปินส์เลือกเวลานี้มาประกาศ ย่อมจะต้องเป็นเพราะว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ความขัดแย้งเกี่ยวกับเกาะเตี้ยวอวี๋ระหว่างจีนและญี่ปุ่นนับวันรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้ฟิลิปปินส์รู้สึกว่าเป็นจังหวะโอกาสที่ดี
นายซุ่ง ซือผิง ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องของจีนกล่าวว่า สาเหตุที่ฟิลิปปินส์เปลี่ยนชื่อน่านน้ำทะเลในเวลาที่อ่อนไหวเช่นนี้ รู้สึกว่า เป็นความเห็นพ้องต้องกันของฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นที่คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็คือเมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาที่มีความขัดแย้งกับจีน ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หลังจากเกิดเหตุการณ์เกาะหวางเหยียนไม่นาน ญี่ปุ่นเคยให้การสนับสนุนกับฟิลิปปินส์อย่างมาก ซึ่งฟิลิปปินส์ก็หวังว่าจะคลี่คลายแรงกดดันต่อญี่ปุ่นของจีนด้วยวิธีการเช่นเดียวกัน ก็นับเป็นการตรึงปัญหาในภาคใต้ของจีนอีกชั้น ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ฉวยโอกาส หากต่อกรกับจีนด้วยเพียงกำลังของตนย่อมไม่ได้เปรียบแม้แต่นิดเดียว เลยต้องลากประเทศที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับจีนอื่นมาสนับสนุน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเป้าหมายสำคัญของฟิลิปปินส์ ด้วยเหตุนี้ ในกรณีที่วิกฤตเกาะเตี้ยวอวี๋อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างตึงเครียดนี้ ฟิลิปปินส์ก็อยากจะฉวยโอกาส ทั้งยังเป็นการสนับสนุนญี่ปุ่นด้วย จะทำให้ญี่ปุ่นเห็นว่า ขณะอยู่ช่วงเวลาสำคัญ ฟิลิปปินส์ก็ยื่นมือมาช่วย
Ton/Dan