สำนักข่าวอนาโตเลียของตุรกีรายงานเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เนื่องจากตุรกีถูกโจมตีโดยกระสุนปืนใหญ่จากซีเรียอีกครั้ง ทำให้กองทัพตุรกีต้องยิงตอบโต้อย่างฉับพลัย นับเป็นการยินปืนใส่ซีเรียครั้งที่ 4 ของตุรกีในช่วง 4 วันที่ผ่านมา สื่อมวลชนตะวันออกกลางเห็นว่า การปะทะบริเวณพรมแดนระหว่างตุรกีกับซีเรียทำให้สถานการณ์ตะวันออกกลางที่ตึงเครียดอยู่แล้วสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐสภาตุรกีผ่านมติอนุมัติให้รัฐบาลใช้ปฏิบัติการทางการทหารข้ามพรมแดน ต่อมา วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเรเซป ตอยยิบ เออร์ดูแกน นายกรัฐมนตรีตุรกีกล่าวคำปราศรัยอย่างก้าวร้าวว่า "ตุรกีไม่อยากให้เกิดสงคราม แต่ก็คิดว่าตุรกีเริ่มเข้าใกล้สงครามแล้ว" สื่อมวลชนสำคัญของตะวันออกกลางต่างได้รายงานคำปราศรัยดังกล่าว รวมทั้งวิเคราะห์และตีความหมายด้วย
ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์พีระมิดของอียิปต์ระบุว่า คำปราศรัยของนายเออร์ดูแกนนั้นแข็งกร้าว นับเป็นคำปราศรัยที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงที่สุดของผู้นำตุรกีนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ยิงปืนใหญ่ใส่กันระหว่างพรมแดนระหว่างซีเรียกับตุรกีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมเป็นต้นมาก และก็อาจบ่งบอกว่าตุรกีจะใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ต่อไป
การปะทะระหว่างตุรกีกับซีเรีย โดยเฉพาะจุดยืนที่แข็งกร้าวยิ่งขึ้นของตุรกีทำให้รัฐบาลซีเรียตกอยู่ในสภาสวะลำบาก แต่ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับฝ่ายต่อต้านของซีเรีย
นักวิเคราะห์เห็นว่า หากตุรกีส่งทหารเข้าสู่ดินแดนซีเรียแล้ว จะทำให้การปะทะขยายวงกว้างและรุนแรงยิ่งขึ้น กระทั่งอิหร่านและพรรคฮิซบุลลอฮ์อาจจะมีส่วนร่วมด้วย ทำให้ตะวันออกกลางมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะระเบิดสงครามขึ้น หนังสือพิมพ์สำคัญของอียิปต์เผยแพร่บทความเตือนให้ตุรกีใช้ท่าทีสุขุมรอบคอบ เพราะว่า "ตุรกีมีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในวิกฤตซีเรีย"
เมื่อเร็วๆ นี้ นายอันเดอร์ส โฟค ราสมูสเซน เลขาธิการองค์การนาโตได้ประณามซีเรียและกล่าวมาหลายครั้งว่า นาโตเตรียมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนแก่ตุรกี แต่ยืนยันว่า นาโตจะไม่ใช้กำลังอาวุธกับซีเรียเหมือนใช้กับลีเบียเมื่อปีที่แล้ว
Ying/Lr