มีสื่อมวลชนญี่ปุ่นใช้สำนวนว่า "นั่งบนหลังเสือ" มาอุปมาจุดยืนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันและสถานการณ์ชะงักงันระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเกี่ยวกับปัญหาเกาะเตี้ยวอี๋ว์ แม้สำนวนนี้ใช้พรรณนาถึงภาวะที่จีนและญี่ปุ่นเผชิญอยู่ในข้อพิพาทเกาะเตี้ยวอี๋ว์ไม่ถูกต้องเต็มร้อยนัก แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ความละเอียดอ่อนของข้อพิพาทระหว่างประเทศ ซึ่งผู้คนมักจะจับตามองจุดยืนที่เป็นปฏิปักษ์กันอย่างรุนแรงและการไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันของคู่พิพาท
ปัญหาเกาะเตี้ยวอี๋ว์สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ซึ่งเกิดจากปัจจัย 3 ประการ ได้แก่ ปัญหาประวัติศาสตร์ ปัญหาดินแดนและการเมืองของตำแหน่งที่ตั้งในภูมิภาค ถ้าจัดการปัจจัยเหล่านี้ได้ดี ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นก็จะพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ ตรงกันข้าม ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นก็จะมีปัญหาชนิดไม่ขาดสาย กระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาเป็นหลักฐานที่ยืนยันต่อการนี้อย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบัน แนวโน้มที่การเมืองญี่ปุ่นเดินไปทาง "ปีกขวา" นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันเปราะบางยิ่งขึ้น
แน่นอนอยู่แล้วว่า ความเปราะบางดังกล่าวไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของจีนกับญี่ปุ่นและผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค ทำอย่างไรจึงจะลดความเปราะบางนี้ให้น้อยลง เงื่อนไขสำคัญคือ สองฝ่ายสามารถปฏิบัติตาม "เอกสารทางการเมือง 4 ฉบับ" ที่จีนกับญี่ปุ่นลงนามในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาได้อย่างแท้จริงหรือไม่ ซึ่งเอกสารดังกล่าวได้แก่ "คำแถลงร่วมจีน-ญี่ปุ่น" "สัญญาว่าด้วยสันติภาพและมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น" "แถลงการณ์ร่วมจีน-ญี่ปุ่น" และ "คำแถลงว่าด้วยการผลักดันความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ที่อำนวยประโยชน์แก่กันระหว่างจีนกับญี่ปุ่น"
เมื่อเผชิญกับข้อพิพาทระหว่างประเทศ ไม่ควรยืนกรานแต่จะเป็นปฏิปักษ์กัน ความจริงแล้วคู่พิพาทมักจะมีผลประโยชน์ร่วมกันมากพอที่จะส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันใช้ความพยายามผ่อนคลายความขัดแย้งกัน และสร้างเงื่อนไขสำหรับแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนผลประโยชน์ส่วนตัว สำหรับจีนกับญี่ปุ่น ผลประโยชน์ร่วมกันที่ใหญ่ที่่สุดคือ บรรลุการพัฒนาอย่างสันติ ซึ่งจีนได้กำหนดการพัฒนาอย่างสันติเป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติในระยะยาวแล้ว แต่ญี่ปุ่นจะถือการพัฒนาอย่างสันติเป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติในระยะยาวหรือไม่นั้น กำลังเป็นช่วงสำคัญที่ให้ญี่ปุ่นตัดสินใจเอง ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากผลประโยชน์ระยะยาวแห่งการพัฒนาประเทศของทั้งจีนและญี่ปุี่น ตลอดจนการดำเนินความร่วมมือภายในภูมิภาคแล้ว การจัดปัญหาเกาะเตี้ยวอี๋ว์ให้ดีด้วยความระมัดระวังนั้นจึงสำคัญอย่างยิ่ง ปัจจุบัน เพียงแต่ญี่ปุ่นยอมรับในข้อพิพาทและวางปัญหาไว้ก่อน สถานการณ์เกาะเตี้ยวอี๋ว์จึงจะเย็นลงได้
Ton/feng