จากข้อมูลรายงานของเว็บไซต์ถาวเป่าว่า ปี 2011 ที่ผ่านมามีผู้เข้าชมเว็บไซต์วันหนึ่งสูงกว่า 120 ล้านคน คิดเป็นอัตราส่วน 1 ใน 4 ของจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจีนทั้งหมด ดังนั้น "ถึงแม้จะแค่หนึ่งในล้านคลิกเข้าชมร้านฉัน..." ด้วยต้นทุนต่ำ แต่มีอัตราส่วนการแวะเวียนเข้ามาชมสูง จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ผู้คิดเปิดร้านค้าออนไลน์ในถาวเป่าคำนวณคาดการณ์ดูก่อนเป็นอันดับแรกและเห็นว่าน่าจะลองดูกันสักตั้ง ซึ่งก็รวมถึงองค์กรการกุศลทั้งหลายด้วย
ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์ถาวเป่าได้ระบุว่า นับจากปี 2010 มีองค์กรการกุศลทยอยเปิดร้านออนไลน์รวมแล้วถึงกว่า 300 ร้านด้วยกัน โดยสินค้าที่ขายนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1) สินค้าที่เป็นรูปธรรม อาทิ ขนมปัง งานฝีมือ 2) สินค้าที่เป็นนามธรรม ที่เห็นมากสุด ได้แก่ คูปองบริจาคระบุรายการการกุศลรูปแบบต่างๆ อาทิ อาหารกลางวันหนึ่งมื้อ พัสดุแบ่งปันน้ำใจหนึ่งห่อ ยอดเงินบริจาคเล็กน้อยจำนวนหนึ่ง
จากการรวบรวมข้อมูลถึงวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่ามี 107 องค์กรการกุศลที่จดทะเบียน และ 107 องค์กรที่ไม่จดทะเบียนทำการเปิดร้านออนไลน์ขึ้น ซึ่งทางผู้ชำนาญการจากฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคมประจำอาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์การค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของจีนให้คำแนะนำว่า ตัวเลขนี้ยังไม่แน่ชัดนักเพราะยังมีองค์กรการกุศลบางส่วนที่เปิดร้านค้าออนไลน์แล้วแต่เรายังไม่รู้ และบางส่วนที่เปิดดำเนินการแล้วแต่ไปไม่รอดถอนตัวออกไปก่อนแล้วก็มี ซึ่งตัวเลขจำนวนร้านการกุศลออนไลน์จำนวนกว่า 200 ร้านนี้ มีสภาพผลประกอบการที่แตกต่างกันมาก เพราะบางร้านมีกิจการรุ่งสุดโต่ง ตรงข้ามกับบางร้านที่เงียบฉี่ไม่มีสินค้าใดตีไข่ไม่แตกสักฟอง
ตัวอย่างเช่น ร้านเบเกอร์รี่ออนไลน์ "อ้ายเต๋อเมี่ยนเปาฝาง" ภายใต้สังกัดมูลนิธิมิตรภาพ (The Amity Foundation) ทำการเปิดร้านขึ้นในปี 2010 ซึ่งถือเป็นสถานฝึกอบรมด้านวิชาชีพให้กับเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา (Mental Retardation) ให้รู้จักทำคุกกี้ ช็อกโกแลต ขนมปัง ขนมเค้กวันเกิด เป็นต้น โดยมีการขายผ่านช่องทางธรรมดาและผ่านร้านออนไลน์บนถาวเป่า ซึ่งอัตราส่วนยอดขายผ่านร้านออนไลน์คิดเป็นประมาณ 2% ของยอดขายทั้งหมด ปัจจุบันร้านมีสถานะอยู่ที่ระดับ 4 เพชร มีสินค้าวางขาย 33 ชนิด มียอดขายหนึ่งเดือนก่อนแสดงไว้ที่ประมาณ 360 ชิ้น นับว่าเป็นตัวอย่างการเปิดร้านออนไลน์ขององค์การการกุศลที่เป็นที่น่าพอใจ
หรือร้านออนไลน์ของมูลนิธิเพื่อบรรเทาความยากจนแห่งประเทศจีน(China Foundation for Poverty Alleviation หรือ CFPA)ที่นำเสนอเป็นสินค้านามธรรมและที่ขายดีที่สุด คือ "ทำดีวันละนิดจิตแจ่มใส" ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 1 หยวน ซึ่งยอดการขายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีกว่า 500 ชิ้น และสินค้าขายดีอันดับรองลงไป คือ "พัสดุปันน้ำใจ" มูลค่า 100 หยวน ที่ทางร้านจะส่งพัสดุระบุชื่อผู้ซื้อเป็นผู้ส่งมอบให้กับเด็กในพื้นที่ยากจน ซึ่งในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมามียอดขายกว่า 240 ชิ้น
นอกจากนี้ยังมีร้าน "มอบอาหารมื้อกลางวัน" ภายใต้มูลนิธิสวัสดิการสังคมแห่งประเทศจีน (China Social Welfare Foundation หรือ CSWF) ที่มีเสียงตอบรับของลูกค้าอย่างดี โดยมีสินค้าอาหารกลางวัน มูลค่าชุดละ 3 หยวน เป็นสินค้ายอดฮิตประจำร้าน ที่ลูกค้าออนไลน์สามารถเลือกสถานที่ปลายทางได้ว่าจะส่งมอบบริจาคไปยังที่ใด อาทิ มณฑลเจียงซี ยูนนาน กุ้ยโจว เสฉวน หรือเลือกแบบไม่เจาะจงสถานที่ผู้รับปลายทางก็ได้ ซึ่งจากยอดแสดงบนหน้าเว็บเทียนเมา(สังกัดถาวเป่า)แสดงว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมามียอดจำหน่าย "มื้อกลางวันฟรี" ถึงกว่า 1 แสนล้านชิ้น
แต่ตัวอย่างกิจการร้านการกุศลที่ไปได้สวยที่ยกมากล่าวถึงนั้นเป็นเพียงสัดส่วนที่น้อยนิด เพราะโดยมากแล้วร้านการกุศลออนไลน์ต่างเงียบเหงาไร้ลูกค้าแวะเวียน ยอดขายเดือนที่ผ่านมาเท่ากับศูนย์เสียส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นที่สังเกตุได้ว่าร้านการกุศลที่ทำยอดขายได้ดีนั้น จะมีปัจจัยสนับสนุนที่สืบเนื่องมาจากร้านเหล่านั้นเป็นองค์กรที่ชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มีความน่าเชื่อถือมาก่อนที่จะขยับมาเปิดร้านบนอินเตอร์เน็ต ส่วนหนึ่งก็เพื่อการเข้าถึงและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการบริจาค เนื่องจากว่าช่องทางเดิมๆ อาทิ การโอนเงินผ่านธนาคารหรือผ่านไปรษณีย์ จะทำให้ความกระตือรือร้นของผู้ที่ต้องการบริจาคนั้นสูญเสียไประหว่างทางได้ ผิดกับช่องบริจาคโดยตรงที่สามารถคลิกง่ายๆได้ด้วยตนเองผ่านการซื้อขายบนอินเตอร์เน็ตในร้านค้าออนไลน์
ทางเว็บไซต์ถาวเป่าคาดการณ์ว่า ถึงปลายปีนี้จำนวนร้านการกุศลออนไลน์น่าจะมีเพิ่มขึ้นถึง 400 ร้าน และในอนาคตจะมีร้านการกุศลออนไลน์ที่ดำเนินการไปได้ดีน่าจะมีได้ถึง 1,000 ร้าน แต่ถ้าเทียบกับจำนวนร้านค้าออนไลน์ทั้งหมดบนถาวเป่าที่มีถึง 8,000,000 ร้านแล้วนั้น ปริมาณร้านการกุศลออนไลน์จำนวนเท่านี้ถือว่าเป็นเพียงส่วนน้อยนิดมาก ซึ่งทางฝ่ายถาวเป่าให้คำแนะนำว่า การที่ร้านการกุศลออนไลน์จะดำเนินการได้ประสบผลสำเร็จดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการสมัครใจที่จะเรียนรู้บวกกับความสามารถในการดำเนินการ เพราะเมื่อตั้งมั่นที่จะเปิดร้านบนอินเตอร์เน็ตแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงจำนวนการแวะเวียนและยอดการจำหน่ายด้วย ไม่เพียงแต่จะต้องคิดนำเสนอรายการและสินค้าที่เหมาะสมให้กับลูกค้าเท่านั้น ยังต้องเข้าใจถึงการตลาดและการให้บริการด้วย อาทิ การตกแต่งร้าน และตอบคำถามข้อสงสัยของลูกค้าอย่างฉับไว เป็นต้น
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府