เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ได้ลงนามบัญญัติ "กฎหมายว่าด้วยการลงทุนจากต่างประเทศของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์" แทนกฎหมายว่าด้วยการลงทุนจากต่างประเทศที่บัญญัติเมื่อปี 1988
ตามกฎหมายฉบับใหม่ดังกล่าว เมียนมาร์ยอมรับให้ทุนต่างชาติลงทุนในด้านพลังงานไฟฟ้า น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ ทรัพยากรแร่ ธุรกิจการผลิต โรงแรม การท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การคมนาคม การสื่อสาร สิ่งก่อสร้าง และธุรกิจการให้บริการ เป็นต้น ส่วนการเกษตร การเลี้ยงสัตว์และอาหารทะเล ยังสงวนสิทธิ์ห้ามลงทุน แต่สามารถจัดตั้งวิสาหกิจร่วมทุนระหว่างเมียนมาร์กับต่างประเทศเพื่อทำการลงทุนได้
กฎหมายฉบับใหม่นี้ยังได้กำหนดนโยบายเอื้อประโยชน์บางประการด้วย เช่น จะยกเลิกภาษีกับวิสาหกิจร่วมทุนระหว่างเมียนมาร์กับต่างประเทศใน 5 ปีแรกที่เริ่มดำเนินธุรกิจใหม่ ซึ่งนานกว่าเมื่อก่อนที่ให้เพียง 3 ปี
รัฐสภาเมียนมาร์ได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยการลงทุนจากต่างประเทศดังกล่าวในที่สุดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐสภาเมียนมาร์ได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ไม่ได้ลงนามทันที โดยได้ปรับปรุง 11 ประการและส่งให้รัฐสภาตรวจสอบพิจารณาใหม่
Yim/Lan