ตามความคิดของชาวจีน การพัฒนาของประเทศใดประเทศหนึ่งคงไม่สามารถเลียนแบบการพัฒนาของประเทศอื่นอย่างเต็มร้อยเปอร์เซนต์ ระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยก็ไม่ใช่มีเพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น แต่ละประเทศควรคัดเลือกระบอบสังคมและพัฒนาการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยตามสภาพที่เป็นจริงของประเทศนั้นๆ
อาทิ บางประเทศเลียนแบบระบอบการเมืองของประเทศตะวันตกมาทั้งหมด กระทั่งใช้วิธีการเลือกตั้งทั่วไปโดยตรงยิ่งกว่าสหรัฐฯ แต่กลับเกิดผลร้ายอย่างคาดไม่ถึงหรือตรงกันข้ามกับความปรารถนาของประชาชนทั่วไป เช่น ทำให้ชนเผ่าต่างๆ ภายในประเทศเกิดความแค้นและเป็นปรปักษ์กัน สังคมแตกแยกและเกิดความปั่นป่วน เศรษฐกิจซบเซาหรือถอยหลัง เป็นต้น
ด้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน คงพยายามแสวงหาระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชนทั่วไป โดยใช้วิธี "ประชาธิปไตยแบบการเลือกตั้ง" รวมกับ "ประชาธิปไตยแบบการหารือ" และประชาธิปไตยแบบการหารือนั้นเป็นส่วนที่ไม่มีในระบบประชาธิปไตยของประเทศตะวันตก
แน่นอน การสร้างสรรค์ระบบประชาธิปไตยของจีนยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอยู่ ต้องการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่แนวคิดของกลุ่มผู้นำจีนก็ชัดเจนมาก โดยรายงานการทำงานของการประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 18 ระบุว่า "ต้องพัฒนาตามหนทางนี้อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ทำให้ระบบการเมืองประชาธิปไตยแบบสังคมนิยมมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น"
ในโลกนี้คงไม่มีระบบการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งที่เหมาะกับทุกๆ ประเทศได้ แต่ละประเทศควรแสวงหาหนทางพัฒนาการเมืองที่เหมาะกับตนเอง แสวงหาแนวคิดการเมืองตามสภาพที่เป็นจริงของประเทศตน นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีนกล่าวรายงานในการประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 18 โดยเน้นว่า "จะไม่เลียนแบบระบบประชาธิปไตยของประเทศตะวันตกอย่างตายตัว" ขณะเดียวกันก็ยังระุบุว่า "ควรเรียนรู้และใช้ผลงานที่มีประโยชน์ของอารยธรรมทางการเมืองของมนุษย์อย่างแข็งขัน" ซึ่งหมายถึง พรรคคอมมิิวนิสต์จีนจะยืนหยัด "หนทางการพัฒนาระบบการเมืองแบบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน"
กล่าวคือ หนทางการพัฒนาระบบการเมืองของจีนที่ถือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตนเป็นพื้นฐาน สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของประเทศตน สามารถแสดงให้เห็นเอกลักษณ์ของจีน พัฒนาก้าวหน้าพร้อมกับยุคสมัย และรวมประสานประชาชนชนชั้นต่างๆ อย่างกว้างขวางและหลากหลายนั้น ยังคงเป็นแนวคิดทางการเมืองของจีน
(Ying/Lin)
