เมื่อออกจากวงการ เธอหันไปทุ่มเทให้กับธุรกิจเสื้อผ้า ธุรกิจด้านความสวยความงาม และอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มที่ ทว่าโชคไม่เข้าข้าง ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บางสาขาขาดทุนจนต้องปิดกิจการ ปี พ.ศ.2546 เธอหวนคืนวงการบันเทิงด้วยการเซ็นสัญญากับ จิ่วโจวย่าหัว บริษัทเอเยนซีดูแลศิลปินในจีนแผ่นดินใหญ่ รับแสดงละครชุด 2 ชิ้นและโฆษณาอีกจำนวนหนึ่ง ต่อมา ปี พ.ศ.2549 จางหมิ่นกลับมาในฐานะผู้อำนวยการสร้างซีรีย์ทางโทรทัศน์เรื่อง BIG SHOT ของซีซีทีวีจีน มี ดาราดาวรุ่งฮ่องกง เซี่ย ถิงเฟิง แสดงนำ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเป็นต้นมาข่าวคราวของเธอเงียบหายไปจากวงการบันเทิงอีกครั้ง จนกระทั่งล่าสุดเพิ่งจะมีภาพของเธอตีพิมพ์ในสื่อเล่มหนึ่ง ระบุว่าถ่ายที่กรุงปักกิ่ง โดยจางหมิ่น อดีตดาราสุดสวยในวัย 45 ปี ยังคงดูสวยสมวัย และแต่งตัวมีสไตล์เหมือนเดิม
ในด้านชีวิตส่วนตัว จางหมิ่น เป็นนักแสดงที่ไม่ขยันเป็นข่าว ข่าวลือที่ค่อนข้างโด่งดังของเธอ นอกจากปั๊ปปี้เลิฟกับ คิงออฟคอมาดี้ โจว ซิงฉือ ก็มีเพียงเรื่องราวความรักของเธอ กับ เซี่ยง หัวเซิ่ง นักธุรกิจมาเฟียเจ้าของธุรกิจภาพยนตร์แห่งอาณาจักรหย่งเซิ่ง ผู้สยายปีกปกคลุมวงการบันเทิงฮ่องกง ณ เวลานั้น ซึ่งสื่อจีนวิเคราะห์ว่าสาเหตุหนึ่งที่จางหมิ่นเป็นดาราที่ไม่ค่อยมีข่าวทางลบก็เพราะมีผู้ทรงอิทธิพลอย่างเซี่ยง หัวเซิ่ง หนุนหลังอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นที่รู้กันในวงการ แต่ทั้งสองก็ไม่เคยออกมายืนยันข่าวลือดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายชายยังมีภรรยาอยู่แล้ว และแม้ว่าภายหลังเขาจะหย่าขาดจากภรรยาแต่ก็ไม่ได้มาลงเอยกับนักแสดงสาวผู้นี้แต่อย่างใด ล่าสุดหลังการปรากฏตัวในวัย 45 ปีที่ยังสาวสะพรั่ง สื่อจีนรายงานว่า จาง หมิ่น วางแผนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับ หลิว หย่งฮุย ผู้จัดการดารา ที่คบหาเป็นแฟนกันมานานหลายปี ในปี 2556 นี้
ผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์ฮ่องกงให้ความเห็นว่า จางหมิ่นอาจจะไม่ได้มีความสามารถทางการแสดงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เทียบชั้น จาง มั่นอี้ ไม่ได้มีพรสวรรค์ที่จะแสดงได้ทั้งบทชาย-หญิงเหมือน หลิน ชิงเสีย ไม่ได้เก่งรอบด้านเหมือนเหมย เยี่ยนฟัง อีกทั้งไม่ได้มีไหวพริบในการแสดงเท่า หวัง จู่เสียน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า จาง หมิ่น มีความงามที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอคือตำนานที่น่าจดจำอีกบทหนึ่งแห่งฟ้าบันเทิงฮ่องกง