นายบารัค โอบามาจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์การเมืองที่แบ่งแยกด้วยพรรคการเมืองอย่างชัดเจน หลังจากการเลือกตั้งประจำปี 2012 ถึงแม้ว่าพรรคเดโมแครตมีจำนวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าเดิมก็จริง แต่พรรคริพับลิกันยังคงครองที่นั่งข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ใน 4 ปีข้างหน้า กรุงวอชิงตันคงต้องตกอยู่ในภาวะเป็นปรปักษ์ระหว่าง 2 พรรคต่อไป เนื่องจากว่ามีปัจจัยที่ยังเห็นต่างกันหลายข้อ นายบารัค โอบามาคงยากที่จะประสบผลงานใหญ่ทางเศรษฐกิจในอีก 4 ปีข้างหน้า ชาวอเมริกันก็ปรับลดความคาดหวังต่อเขาให้น้อยลง
เมื่อเร็วๆ นี้ อดีตผู้นำสหรัฐอเมริกาหลายคนขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสต่างแสดงความหวังต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนในวาระที่ 2 ของนายบารัค โอบามาอย่างมาก การพัฒนาของความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศใหญ่เก่าและประเทศใหญ่ใหม่ย่อมจะต้องมีการปะทะกันเป็นครั้งแรก นายแจมส์ เบเกอร์ ที่ 3 (James Addison Baker III) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเตือนว่า สหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องยึดถือจุดยืนที่เป็นกลาง อย่าแทรกแซงการปะทะกันในส่วนภูมิภาค เช่น ในทะเลจีนใต้ ส่วนนายโรเิ่่บิร์ต รูบิน (Robert Rubin) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาเห็นว่า จีนเป็นหัวรถไฟที่เร่งการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาและจีนมีผลประโยชน์ร่วมกันในความร่วมมือและการพัฒนา ควรเคารพซึ่งกันและกัน ช่วยกันผลักดันการพัฒนาที่เอื้ออำนวยผลประโยชน์แก่กัน
ในวาระแรกของนายบารัค โอบามา ได้ย้ายเป้าหมายสำคัญทางการต่างประเทศในโลกไปยังเอเชียแปซิฟิก เสนอยุทธศาสตร์ "การปรับความสมดุลใหม่" หลังจากการปรับปรุงยุทธศาสตร์ทางการทหารในเอเชียแปซิฟิคที่และถูกสงสัยแล้ว รัฐบาลโอบามาก็อธิบายว่า ยุทธศาสตร์เอเชียแปซิฟิคเป็นการปรับปรุงภูมิภาคอย่างรอบด้านซึ่งรวมถึงการเมืองและเศรษฐกิจด้วย เพื่อลดสีสันทางการเมืองให้น้อยลง แต่ทว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเร่งปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ "การปรับสมดุลใหม่" นับวันยิ่งเร็วขึ้น ซึ่งทำให้หลายคนแสดงความกังวลต่อปฏิบัติการนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิชาการจากสถาบันบรูกคคิงส์ (Brookings Institution) ของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า เป้าหมายอันดับแรกของยุทธศาสตร์เอเชียแปซิฟิคของนายโอบามาควรดูแล รักษาเอเชียที่ทำให้เกิดแรงกระตุ้นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐอเมริกาใน 5 – 10 ปีข้างหน้า
ในโลกปัจจุบันที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น สหรัฐอเมริกายืนอยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางประวัติศาสตร์อีกครั้ง สหรัฐอเมริกาในช่วง 4 ปีข้างหน้าย่อมจะต้องเผชิญความยากลำบากอย่างมากเนื่องจากอยู่ระหว่างการให้คำมั่นสัญญาและการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา
Ying/Dan