แถลงการณ์ของเกาหลีเหนือใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าวอย่างเสมอต้นเสมอปลาย นอกจากประกาศว่า การเจรจา 6 ฝ่ายเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือและแถลงการณ์ร่วม "19 กันยา" "ไม่มีอีกแล้ว" ยังกล่าวว่า จะไม่มีการเจรจาเกี่ยวกับการปราศจากนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอีก
ในแถลงการณ์ เกาหลีเหนือโจมตีสหรัฐอเมริกาหลายครั้ง พรรณนาสหรัฐอเมริกาเป็น "ศัตรูเก่า" ประณาม "นโยบายที่ถือเกาหลีเหนือเป็นปรปักษ์ของสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ระยะที่อันตรายยิ่งขึ้น"
เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวในนามรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการตอบสนองสำหรับเรื่องนี้ สรุปการเตือนที่จะจัดการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 นั้นเป็น "การท้าทายที่ไม่มีความจำเป็นเลย" นอกจากนี้ยังเตือนเกาหลีเหนือว่า หากเกาหลีเหนือดำเนินการทดลองนิวเคลียร์ต่อไป ก็แน่นอนที่จะฝ่าฝืนมติที่เกี่ยวข้องของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกาจะใช้มาตรการใหม่ซึ่งจะทำให้เกาหลีเหนือตกอยู่ในสภาพที่เด็ดเดี่ยวยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงนามผ่านมติที่ 2087 เกี่ยวกับปัญหายิงดาวเทียมของเกาหลีเหนือ" ด้วยเสียงสนับสนุน 100% เรียกร้องให้เกาหลีเหนือปฏิบัติตามมติที่เกี่ยวข้องของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ห้ามยิงดาวเทียวด้วยเทคโนโลยีขีปนาวุธนำวีถีอีก
หลังจากผ่านมติแล้ว นางซูซาน ไรซ์ ผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติแสดงท่าทีพื้นฐานเกี่ยวกับสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีของสหรัฐอเมริกาขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว นางซูซาน ไรซ์กล่าวโดยอ้างคำพูดของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า หากเกาหลีเหนือสละทิ้งโครงการอาวุธนิวเีัคลียร์และเลือกเดินหนทางการก้าวหน้าอย่างสันติ สหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือ นางซูซาน ไรซ์ยังกล่าวเน้นว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องมีปฏิบัติการในการสละโครงการอาวุธนิวเีคลียร์ สหรัฐอเมริกาจึงจะมี "การพิจารณาใหม่" ต่อการนี้
ถึงแม้ว่าทางการสหรัฐอเมริกามีท่าทีแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือก็ตาม แต่ก็ไม่อยากปิดประตูแห่งการเจรจากับเกาหลีเหนืออย่างสิ้นเชิง ปัจจุบัน กลิน เดวิส หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจา 6 ฝ่ายของสหรัฐอเมริกา ผู้แทนพิเศษเกี่ยวกับนโยบายเกาหลีเหนือของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเยือนเอเชียตะวันออก เพื่อปรึกษาหารือสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีที่ตึงเครียด
Yim/Dan