เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปี 2011 เรือขนส่งสินค้า 2 ลำของจีนถูกปล้นในน่านน้ำบริเวณสามเหลี่ยมทองคำของแม่น้ำโขง โดยลูกเรือชาวจีน 13 คนถูกฆ่าตาย

กระทรวงความมั่นคงจีน และสันติบาลมณฑลหยุนหนานจัดตั้งหน่วยงานตรวจสอบคดีที่ประกอบด้วยตำรวจผู้ชำนาญการระดับหัวกะทิกว่า 200 นาย เพื่อตรวจสอบคดีดังกล่าว จากการริเริ่มความร่วมมือกันโดยจีน ทำให้จีน ไทย ลาว และเมียนมาร์ ได้ร่วมกันสร้างกลไกความร่วมมือตรวจสอบทางกฏหมายในลุ่มแม่น้ำโขง โดยดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง ร่วมกันลาดตระเวน ร่วมกันแก้ไขปัญหาความปลอดภัย และร่วมกันปราบปรามพฤติกรรมข้ามชาติ

ตำรวจ 4 ประเทศดังกล่าวตรวจพบอย่างรวดเร็วว่า นายหน่อคำ หัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดที่ใช้แม่น้ำโขงเป็นเส้นทางขนส่ง และพรรคพวกรวม 4 คนร่วมมือกับทหารไทยบางคนอย่างผิดกฏหมาย โดยร่วมกันวางแผน และดำเนินคดีปล้นฆ่าลูกเรือขนส่งสินค้าชาวจีนกลางแม่น้ำโขง

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนปี 2012 ศาลประชาชนระดับกลางเมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนานพิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายหน่อคำ นายส่างคำ และนายอีไหลด้วยข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา ขนส่งยาเสพติด ลักพาตัว และปล้นเรือ พิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายจาซีข่าด้วยข้อหาฆ่าตนโดยเจตนา ลักพาตัว และปล้นเรือ และพิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายจาโปด้วยข้อหาฆ่าตนโดยเจตนา ลักพาตัว และปล้นเรือ เลื่อนเวลาการลงโทษเป็นเวลา 2 ปี และพิพากษาลงโทษจำคุกนายจาโทเป็นเวลา 8 ปีด้วยข้อหาปล้นเรือ ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คนยังถูกลงโทษให้จ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ฟ้องร้องจำนวน 6 ล้านหยวน

หลังการประกาศคำพิพากษา ผู้ต้องหาทุกคนต่างระบุจะยื่นขออุทธรณ์ทันที เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปี 2012 ศาลประชาชนสูงสุดมณฑลหยุนหนานดำเนินการพิพากษารอบที่ 2 ประกาศรักษาผลการพิพากษาเดิม และยื่นการลงโทษประหารชีวิตนายหน่อคำ นายส่างคำ นายอีไหล และนายจาซีข่าสู่ศาลประชาชนสูงสุดสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามกฏหมายว่าด้วยคดีอาญาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

Yim/Ldan