เมื่อเร็วๆ นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศเผยผลงานวิจัยล่าสุดว่า ถึงปี 2014 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของ 5 ประเทศสมาชิกอาเซียนได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและเวียดนามจะสูงถึง 2,436,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะล้ำเกิน 4 เสือแห่งเอเชีย คือ เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์และฮ่องกงที่จะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมอยู่ที่ประมาณ 2,408,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ซึ่งเมื่อปี 2002 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและเวียดนามรวมแล้วไม่ถึงจำนวนครึ่งหนึ่งของ 4 เสือแห่งเอเชีย

ปัจจุบัน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-อาเซียนนับวันแน่นแฟ้นขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานใหญ่ของด่านศุลกากรจีนเผยว่า เฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมาเดือนเดียว จีนนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังอาเซียนมีมูลค่า 36,990 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 42.9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ การส่งออกมีมูลค่า 20,070 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 48.8%

นักธุรกิจทั้งจีนและอาเซียนส่วนใหญ่เห็นว่า พร้อมๆ กับเศรษฐกิจของประเทศอาเซียนได้พัฒนาเจริญขึ้น นักธุรกิจที่มาลงทุนในจีนอาจหันไปลงทุนในประเทศอาเซียน ขณะที่นักธุรกิจจีนก็มีแนวโน้มจะย้านฐานการผลิตจากภาคตะวันออกของจีนไปยังประเทศอาเซียนเช่นกัน

ผลสำรวจประจำปี 2012 ของ การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาระบุว่า เนื่องจากต้นทุนการผลิตในประเทศเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจีนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มประเทศอาเซียนจะมีกำลังแข่งขันในภาคการผลิตมากกว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเชิงเปรียบเทียบ

ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า เนื่องจากปีหลังๆ นี้ เศรษฐกิจของไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนามพัฒนาอย่างรวดเร็ว 5 ประเทศนี้จึงสามารถรับฐานการผลิตที่ย้ายออกจากจีน ทั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งอาเซียนและจีนที่กำลังเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม และทำให้จีนมีโอกาสการพัฒนาเทคโนโลยี บุคลากร และธุรกิจภาคบริการเพิ่มมากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า การย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของจีนนั้นยังจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคเอเชียด้วย นายหยาง มู่ นักวิจัยของสถาบันวิจัยเกี่ยวกับภูมิภาคเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าวว่า ภาคการผลิตของจีนและอาเซียนอยู่ในห่วงโซ่เดียวกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้น การย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังอาเซียน และการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของจีนนั้นจะส่งผลกระทบทางบวกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ตลอดจนเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยต่อการยกระดับกำลังแข่งขันในภาคการผลิตของจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย

(YIM/cai)