บุคคลวงการที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เห็นว่า ความเป็นชุมชนเมืองเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจจีนในอนาคตที่สำัคัญ แต่ทำอย่างไรจึงจะให้กระบวนการพัฒนาสู่ความเป็นชุมชนเมืองดำเนินไปอย่างดีนั้น นับเป็นประเด็นร้อนของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ นักวิชาการและเจ้าหน้าที่สำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กำลังเข้าร่วมการประชุมสภาฯ ประจำปีในกรุงปักกิ่ง
ที่เมืองซูโจวมณฑลเจียงซู นายถัง เจี้ยนชิงวัย 57 ปีกล่าวว่า รู้สึกดีมากที่ได้กลายเป็นชาวเมือง ในระหว่างกระบวนการสู่ความเป็นชุมชนเมือง บ้านเก่าของเขาถูกรื้อไป และได้รับเงินชดเชย 1.7 ล้านหยวน เขานำเงิน 1 ล้านหยวนไปซื้อบ้าน 2 ชุด และหลังหักค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านใหม่แล้ว ยังมีเงินเหลืออีกหลายแสนหยวน นอกจากนั้น การเข้ารับการ้รักษาโรคในโรงพยาบาลสามารถเบิกได้ 80% ตัวเองเพียงจ่าย 20% เท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นว่า กระบวนการสู่ความเป็นชุมชนเมืองนำการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงมาให้กับสังคมจีน นายอี้ เผิง อุปนายกสมาคมวิจัยยุทธศาสตร์แห่งเมืองของจีนเห็นว่า ความเป็นชุมชนเมืองจะยกระดับความเสมอภาคในสังคมให้สูงขึ้น สร้างแหล่งที่พักอาศัยที่น่าอยู่ และทำให้ประชาชนมีความมั่งคั่ง
สถิติของทางการจีนแสดงให้เห็นว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราความเป็นชุมชนเมืองของจีนเพิ่มขึ้นจาก 45.9% มาเป็น 52.6% ทำให้โครงสร้างของเมืองและชนบทเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
ช่วง 30 ปีที่ผ่านมา กระบวนการความเป็นชุมชนเมืองของจีนไม่เคยหยุดยั้ง แม้ว่าได้รับผลงานมากมายก็ตาม แต่ก็มีปัญหาไม่น้อย อาทิ เช่นท้องที่บางแห่งเร่งความเร็วเกินควร ทำให้เกิดสภาพการสิ้นเปลืองทรัพยากรที่ดินบ้าง สิทธิประโยชน์ของเกษตรกรไม่ได้รับการคุ้มครอง ตลอดจนระบบประกันไม่สมบูรณ์แบบ เป็นต้น
สำหรับปัญหาเหล่านี้ นายเฉิน เสี่ยวหวา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรจีนกล่าวว่า การผลักดันกระบวนการความเป็นชุมชนเมืองต้องคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของเกษตรกร
เขากล่าวว่า "ก่อนอื่น ต้องปฏิบัติตามนโยบายเกี่ยวกับสิทธิการประกอบกิจการในพื้นที่ทำกินของเกษตรกร ในระหว่างการเวนคืนที่ดินนั้น ควรเพิ่มสัดส่วนรายได้ของเกษตรกรที่มีในมูลค่าเพิ่มที่ดินอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรสามารถร่วมแบ่งปันผลประโยชน์จากความเป็นชุมชนเมือง ขณะเดียวกัน ควรโยกย้ายให้เกษตรกรเข้าเมืองอย่างมีขั้นตอน เพื่อให้พวกเขาใช้ชีวิตในเมืองอย่างสบายและปกติ"
(Yim/Lin)