วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุโจมตีด้วยจรวดบรรจุสารเคมีที่ชานเมืองอเลปโป หลังจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศซีเรียเรียกพบทูตานุทูตประเทศต่างๆ ประจำซีเรีย และประกาศว่าฝ่ายต่อต้านเป็นผู้ก่อเหตุ อีกทั้งหาว่าตุรกีและกาตาร์ควรรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วย นายริเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน นายกรัฐมนตรีตุรกีให้คำตอบในคืนวันเดียวกันว่า ตุรกีไม่มีอาวุธเคมี ส่วนกองกำลังเสรีภาพซีเรียของฝ่ายต่อต้านกลับหาว่าทหารรัฐบาลเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศซีเรียส่งสาส์นถึงเลขาธิการสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยเรียกร้องให้สหประชาชาติดำเนินการตรวจสอบต่อการใช้อาวุธเคมีในเหตุปะทะกันของซีเรีย
"จรวดบรรจุสารเคมี" นี้ ทำให้ประชาคมโลกพากันให้ความสนใจยิ่ง จีนเห็นว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้อาวุธเคมี ก็จะขอคัดค้านโดยเด็ดขาด ขณะที่รัสเซียได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการที่ฝ่ายต่อต้านซีเรียใช้อาวุธเคมี ส่วนสหรัฐอเมริการะบุว่า ยังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ยืนยันว่าฝ่ายต่อต้านซีเรียได้ใช้อาวุธเคมี นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติประกาศแถลงการณ์ว่า ไม่ว่าฝ่ายใดใช้อาวุธเคมีในกรณีใดก็ตาม ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้
เกี่ยวกับเหตุการณ์ใช้อาวุธเคมีดังกล่าว ทั้งรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านซีเรีย ต่างมีเหตุผลอ้างว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้กระทำ เมืองอเลปโปเป็นเขตที่อยู่ใต้การควบคุมของทหารรัฐบาล ซึ่งฝ่ายต่อต้านมุ่งที่จะบุกยึดเพื่อตั้งเป็น"เขตปลดปล่อย"สองฝ่ายสู้รบกันเพื่อเมืองนี้มาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ปัจจุบัน ทหารรัฐบาลยังคงเป็นฝ่ายครองเมืองอยู่ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีความจำเป็นไหมที่ทหารรัฐบาลต้องใช้อาวุธเคมีโดยไม่กลัวว่าจะได้รับการกล่าวประณามจากประชาคมโลกอย่างรุนแรง แต่ฝ่ายต่อต้านก็ประกาศว่าไม่มีอาวุธเคมี อีกทั้งไม่มีเครื่องมือยิงจรวดด้วย จึงเป็นไม่ได้ที่จะเป็นผู้ก่อเหตุ