วันที่ 21 มีนาคมถือเป็นวันนอนหลับโลก แต่จากผลสำรวจล่าสุดพบว่า สภาวะการนอนหลับของชาวจีนในปัจจุบันไม่ค่อยดีนัก มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 64.3 แต้มเท่านั้น ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่กว่าครึ่งระบุว่า เป็นเพราะความเครียดในการทำงานและการใช้ชีวิต ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับของตน โดยชาวเมืองใน 3 เมืองใหญ่ของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง กวางเจา และเซี่ยงไฮ้ ตกอยู่ในสภาพนอนไม่หลับ
การทำสำรวจสภาวะการนอนหลับของชาวจีนใน 20 เมือง โดยสมาคมแพทย์จีน CMDA ร่วมกับสถาบันวิจัย Horizon ประกาศรายงานผลสำรวจเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ชาวปักกิ่ง กวางเจา และเซี่ยงไฮ้ สามเมืองใหญ่ของจีน ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทและเป็นสุขนัก โดยชาวปักกิ่งร้อยละ 82.8 และชาวกวางเจาร้อยละ 82.4 ระบุว่า ความกดดันจากครอบครัวเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่อการนอนหลับของพวกเขา
โดยผลการสำรวจระบุว่า กรุงปักกิ่ง นครกว่างโจว เมืองซีหนิง คุนหมิง ตงกว่าน เป็น "เมืองที่นอนไม่หลับ" นครเซี่ยงไฮ้ นครเทียนจิน เมืองหนานชาง หวายหนาน เฉิงตู เป็น "เมืองที่หลับไม่สนิท" ส่วนเมืองหนานจิง อู่ฮั่น ฉางซา เสิ่นหยาง หังโจว เป็น "เมืองที่หลับอย่างเป็นสุข" และเมืองเซี่ยเหมิน เจิ้งโจว ฉีฉีฮาเอ่อร์ ฉงชิ่ง ซีอัน เป็น "เมืองที่หลับฝันดี"
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย Horizon ชี้ให้เห็นว่า ถ้าดูจากข้อมูลแล้ว "เมืองตงกว่าน" ถือเป็น "เมืองจอมนิทรา" เพราะชาวเมืองนอนตื่นสายที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วตื่นตอนประมาณ 8.09 น. และมีระยะเวลาหลับโดยเฉลี่ยเท่ากับ 8.8 ชั่วโมง แต่กลับถูกจัดอยู่ในกลุ่ม "เมืองที่นอนไม่หลับ" แสดงให้เห็นว่า การมีเวลานอนหลับมากไม่ได้หมายถึงว่าหลับได้ดี ดังนั้น การนอนหลับได้สนิทและเป็นสุข จึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มที่มีปัญหานอนไม่หลับนับวันจะอายุน้อยลงเรื่อยๆ ด้วย
โดยในช่วงไม่กี่ปีนี้ การใช้โทรศัพท์มือถืออัจฉริยะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น และได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหนุ่มสาวจีน แทบจะเรียกได้ว่าขาดเสียไม่ได้ไปแล้ว ซึ่งจากการทำสำรวจของเว็บไซต์แห่งหนึ่งด้วยคำถามที่ว่า "ก่อนนอนคุณเล่นโทรศัพท์มือถือหรือไม่" ผลปรากฏว่า กว่าร้อยละ 60 ตอบว่าไม่เล่นเป็นนอนไม่หลับ ซึ่งร้อยละ 16.01 ระบุว่าใช้เวลาเล่นนานกว่า 1 ชั่วโมง และร้อยละ 13.43 ระบุว่า ใช้เวลาเล่นนานขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกือบครึ่งยอมรับว่าติดมือถือหนักขึ้นเรื่อยๆ ด้วย โดยชาวเน็ตที่ร่วมทำสำรวจครั้งนี้ มีอายุต่ำกว่า 30 ปี คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 70
ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า คนส่วนใหญ่มักโทษว่าเพราะเครียดจากหน้าที่การงานและการใช้ชีวิต ก่อให้เกิดความกังวลจนนำไปสู่การนอนไม่หลับ แต่แท้ที่จริงแล้วการเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนต่างหากที่เป็นตัวการสำคัญ การเล่นมือถือ ไม่ว่าจะเล่นเกม เปิดอ่านไมโครบล๊อค หรืออื่นๆ ล้วนส่งผลต่อการนอนหลับพักผ่อนทั้งสิ้น เพราะยิ่งเล่นยิ่งเพลินยิ่งตื่น และที่ว่าก่อนนอนไม่เล่นเป็นไม่หลับนั้นเป็นเรื่องของจิตใจ ต้องพยายามเอาชนะใจตัวเองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้ ควรปรับลดความสว่าง และจำกัดควบคุมไม่ให้เกิน 45 นาที
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府