เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวที่การประชุมแถลงข่าวว่า การที่เรือประมงเวียดนามล้ำเข้าสู่น่านน้ำซีซาของจีนเป็นการกระทำผิดกฎหมาย การปฏิบัติของจีนมีเหตุผลและชอบธรรม และในวันเดียวกัน ผู้รับผิดชอบจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องของทหารเรือจีนกล่าวว่า ข่าวที่ว่า "เรือรบจีนเปิดฉากยิงเรือประมงเวียดนาม จนก่อให้เกิดไฟไหม้" เป็นเรื่องที่กุขึ้นมาทั้งสิ้น เรือรบจีนเพียงแต่ขับไล่เรือที่รุกล้ำน่านน้ำจีนอย่างผิดกฎหมาย เพื่อคุ้มครองอธิปไตยเหนือดินแดนและน่านน้ำทะเลของประเทศชาติ ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ชอบกฎหมาย
นายหง เหล่ย กล่าวว่า หมู่เกาะซีซาเป็นดินแดนของจีน ซึ่งไม่สามารถโต้แย้งได้อย่างเด็ดขาด การปฏิบัติต่อเรือประมงเวียดนามที่ดำเนินการอย่างผิดกฎหมายที่น่านน้ำซีซาของจีนมีเหตุผลและชอบธรรม ฝ่ายที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า ในขณะนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ต่อเรือประมงเวียดนาม และจีนได้เร่งรัดให้เวียดนามดำเนินมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มการอบรมและการบริหารชาวประมง และยุติการดำเนินงานที่ผิดกฎหมายของจีน
ผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องของทหารเรือจีนกล่าวว่า ความจริงแล้ว เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่อตรวจพบว่ามีเรือประมงเวียดนาม 4 ลำเข้ามาหาปลาในเขตน่านน้ำทะเลใกล้หมู่เกาะซีซาของจีน เรือลาดตระเวนของทหารเรือจีนจึงได้เข้าไปเตือนด้วยวิธีเปิดหวูด ตะโกนนอก และส่งธงสัญญาณให้หลายครั้ง เพื่อเรียกร้องให้ออกไปจากน่านน้ำทะเลของจีน แต่ไม่เป็นผล เพราะฉะนั้น เรือรบจีนจึงยิงกระสุนสัญญาณสีแดง 2 นัดขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเป็นการเตือนอีกครั้ง ซึ่งได้ลุกไหม้หมดและดับลงในอากาศ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการใช้อาวุธ หรือเรือเวียดนามเกิดเพลิงไหม้อย่างเด็ดขาด ฝ่ายที่เกี่ยวข้องของเวียดนามเสกสรรค์ปั้นแต่งเรื่องขึ้นเอง ซึ่งการยิงปืนส่งสัญญาณของจีนมีเจตนาและความมุ่งหมายอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
หมู่เกาะซีซาเป็นดินแดนของจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อหลายปีมานี้ เรือประมงเวียดนามมักรุกล้ำน่านน้ำทะเลของจีนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งในปี 2012 เพียงปีเดียว มีจำนวนถึง 303 ลำ แต่เรือจีนไม่เคยดำเนินการจับกุมเรือประมงเหล่านี้ เพื่อรักษาสถานการณ์ในภาพรวมของความสัมพันธ์ระหว่างทหารทั้งสองประเทศ
Ton/Chu