สื่อประเทศตะวันตกบางรายขณะตีความความสัมพันธ์จีน-บรูไนนั้น มักจะพูดถึงปัญหาทะเลจีนใต้โดยเจตนา โดยเห็นว่า นี่เป็น "โจทย์ที่แก้ยาก" สำหรับบรูไนในฐานะประเทศประธานอาเซียนในปีนี้ ถ้อยแถลงดังกล่าวกล่าวเกินเลยถึงน้ำหนักของปัญหาทะเลจีนใต้ในความสัมพันธ์จีน-อาเซียน เพราะโดยความเป็นจริงแล้ว ในปัญหาดังกล่าว จีนกับประเทศอาเซียนมีการติดต่อและร่วมหารือมาโดยตลอด
การพิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพในบริเวณทะเลจีนใต้เป็นความปรารถนาร่วมกันของจีนกับอาเซียน อีกทั้งสอดคล้องกับผลประโยชน์ของทุกประเทศรอบๆ บริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมถึงบรูไนด้วย และไม่ว่าประเทศใดจะมาขึ้นนั่งเป็นประเทศประธานอาเซียนก็ตาม ต่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดินแห่งบรูไนทรงมีพระราชดำรัสก่อนเสด็จเยือนจีนว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรยึดหลัก "ปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้" แสวงหาทางแก้ปัญหาทะเลจีนใต้ด้วยสันติวิธีและการเจรจา หากไม่ควรให้ปัญหานี้กระทบมิตรสัมพันธ์และความร่วมมืออาเซียน-จีนแต่อย่างใด
บรูไนในฐานะประเทศประธานอาเซียนในปีนี้ ได้กำหนดคำขวัญว่า "จงสามัคคีกัน เพื่อประชาชนของเราและอนาคตของเรา" อาเซียนมีเป้าหมายที่ชัดแจ้งว่าจะเริ่มต้นกระบวนการสร้างประชาคมเศรษฐกิจก่อนปี 2015 ซึ่งในปีเดียวกัน ยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนจะเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2012 ส่วนความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายด้านเขตการค้าเสรีและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก็ย่อมจะลงลึกยิ่งขึ้น
มีการวิเคราะห์ว่า บรูไนในฐานะประเทศประธานอาเซียนในปีนี้ จะมุ่งมั่นให้การประชุมสุดยอดอาเซียนดำเนินไปอย่างสงบเสงี่ยมและฉันมิตร เชื่อว่าจีนกับอาเซียนต่างมีสติปัญญาเพียงพอที่จะจัดการกับประเด็นต่างๆ ด้วยดี อีกทั้งให้การประชุมสุดยอดพุ่งเป้าไปยังความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าที่เห็นผลจริงและการสร้างอาเซียนให้เป็นหนึ่งเดียว
(YIM/LING)