เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ไตรมาสแรกปีนี้ จีดีพีเติบโตขึ้นร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าอัตราเติบโตในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและก็ต่ำกว่าไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 จากตัวเลขสถิติแสดงให้เห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของจีนต้องอาศัยความต้องการภายในประเทศเป็นสำคัญ
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยข้อมูลระบุว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดมูลค่าจีดีพีเป็น 11.89 ล้านล้านหยวน วิสาหกิจอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่พอสมควรสร้างรายได้ให้ประมาณ 710,000 ล้านหยวน เพิ่มมากกว่าระยะเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.2 ซึ่งอัตราการเติบโตเร็วกว่าเมื่อปีที่แล้วทั่วทั้งปีร้อยละ 11.9
นายเซิ่ง ไหลยุ่น โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุในที่ประชุมแถลงข่าวของสำนักงานข่าวสารแห่งคณะรัฐมนตรีจีนว่า เมื่อไตรมาสแรกที่ผ่านมา สภาพโดยทั่วไปของเศรษฐกิจจีนมีการเริ่มต้นที่ราบรื่น และมีความก้าวหน้าท่ามกลางความมั่นคง
นายเซิ่ง ไหลยุ่นยังชี้ว่า พร้อมกับรัฐบาลระดับต่างๆ เร่งปรับโครงสร้างและเร่งยกระดับอุตสาหกรรม การบริโภคมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ค่าจีดีพีในไตรมาสแรกปีนี้เติบโตขึ้นร้อยละ 7.7 โดยมีร้อยละ 4.3 มาจากภาคการบริโภค ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50
ส่วนไตรมาสแรกปีนี้ รายได้เฉลี่ยต่อคนของชาวชนบทเติบโตขึ้นร้อยละ 9.3 ต่ำกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้วกว่าร้อยละ 3 นายเซิ่ง ไหลยุ่นระบุว่า มีปัจจัยหลายอย่างทำให้อัตราเติบโตทางรายได้ของเกษตรกรลดลง