คำกล่าวปฏิเสธประวัติศาสตร์ของนายชินโซ อาเบะได้รับการคัดค้านอย่างรุนแรงจากประเทศที่เกี่ยวข้อง
  2013-04-29 17:25:51  cri

หลังจากสมาชิกคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นและสมาชิกรัฐสภาจำนวน 168 คนไปคารวะศาลเจ้ายาซูคุนิไม่นาน นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้มีคำกล่าวปฏิเสธต่อประวัติศาสตร์อย่างเปิดเผย โดยเน้นว่าการคารวะศาลเจ้ายาซูคุนินั้น "ชอบด้วยเหตุผลและมีสมควรอย่างยิ่ง" เขาแสดงท่าทีอย่างกระจ่างแจ้งที่อนุมัติให้สมาชิกคณะรัฐมนตรีไปปฏิบัติ หลายวันมานี้ คำพูดของนายอาเบะและนักการเมืองฝ่ายขวาประสบกับเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เกี่ยวกับปัญหาการคารวะศาลเจ้ายาซูคุนิของญี่ปุ่น รัฐบาลเกาหลีใต้ยึดมั่นในหลักการด้านการทูตแห่ง "การไม่อ่อนข้ออย่างเด็ดขาด" ด้วยเหตุที่นายอาเบะเผยจุดยืนที่ว่าจะ "ไม่ยอมรับและปฏิบัติเพื่อสืบเนื่องคำกล่าวของนายโทมิอิจิ มุรายามา" เขาจึงเน้นย้ำว่า เกาหลีใต้ไม่ยอมให้ญี่ปุ่น "บิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างเด็ดขาด" ในปัญหาประวัติศาสตร์

หนังสือพิมพ์ "วอชิงตันโพสท์" ของสหรัฐอเมริกาลงบทความเมื่อวันที่ 27 เมษายนว่า "แน่นอนอยู่แล้วว่า ผู้คนชอบตีความหมายใหม่กับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แต่สภาพความเป็นจริงไม่มีทางจะปฏิเสธได้ ญี่ปุ่นเคยรุกรานและยึดครองเกาหลีเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพื้นที่อื่นๆ ของจีน และก็เคยบุกรุกมาเลเซียด้วย แต่ทว่า เหตุใดที่ เยอรมนีสามารถเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์อย่างซื่อสัตย์สุจริตได้ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แถมยังทำให้ฐานะของตนสำคัญขึ้นในยุโรปด้วย ขณะที่สำหรับชาวญี่ปุ่นบางกลุ่ม ยากที่จะยอมรับข้อเท็จจริงนักหนาขนาดนี้"

สำนักข่าวเกียวโตอ้างคำพูดของนักการทูตของญี่ปุ่นและสหรัฐฯมารายงานเมื่อวันที่ 25 เมษายนว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงความสนใจต่อคำพูดของนายอาเบะและเหตุคารวะศาลเจ้ายาซูคุนิผ่านช่องทางด้านการทูตที่ไม่เป็นทางการกับรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว โดยวอชิงตันเห็นว่าทั้งหมดนี้จะกระทบต่อเสถียรภาพของสถานการณ์เอเชียตะวันออก และจะส่งผลเสียกับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศรอบข้างด้วย

วันเดียวกัน นางฮั่ว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงข่าวว่า ธาตุแท้ของปัญหาการคารวะศาลเจ้ายาซูคุนิคือ รัฐบาลและผู้นำญี่ปุ่นมองและปฏิบัติต่อประวัติศาสตร์ในเรื่องการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียอย่างไร หากผู้นำญี่ปุ่นปัจจุบันเห็นว่า การบุกรุกยึดครอง ผนวกดินแดน และปกครองประเทศเพื่อนบ้านเป็นเมืองขึ้นของลัทธิรัฐทหารญี่ปุ่นนั้น เป็น "เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และประเพณีปฏิบัติ" ที่น่า "ภาคภูมิใจ" มุ่งหมายที่จะท้าทายผลสรุปของสงครามโลกครั้งที่ 2 และระเบียบสากลหลังสงคราม ญี่ปุ่นก็จะไม่มีวันที่จะเดินพ้นเงามืดแห่งประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียก็จะไม่มีอนาคตอย่างเด็ดขาด

YIM/FENG

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040