เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม บุคคลวงการเศรษฐกิจของไทยร่วมเรียกร้องให้ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังของไทยร่วมใช้มาตรการที่จำเป็น ยับยั้งไม่ให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างแรง เพื่อรักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับตระกูลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และรักษาความสามารถการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ไทย
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยกล่าวว่า ขณะนี้การแข็งค่าขึ้นอย่างแรงของเงินบาทสร้างความลำบากให้กับวิสาหกิจด้านการผลิตของไทยในการกำหนดราคาผลิตภัณฑ์เมื่อเผชิญหน้ากับใบสั่งซื้อ ส่วนนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยหอการค้าเห็นว่า การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นอาจจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนปรับสูงถึง 28 บาทแลกได้ 1 เหรียญสหรัฐฯ ก็มีความเป็นไปได้ที่ทำให้อัตราการเติบโตของ GDP ลดต่ำลง 0.5 – 1% ถ้าแข็งค่าขึ้นอีกจนถึงระดับ 27 บาทแลกได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ วิสหากิจไทยจำนวนหนึ่งอาจจะต้องปิดกิจการ
YIM/FENG