ระหว่างกลับมาพักผ่อนหนีลมหนาวจากปักกิ่งมาเผชิญไอร้อนที่กรุงเทพฯ ผู้เขียนมักต้องไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มความรู้และทันสถานการณ์สังคมไทย โดยเฉพาะครั้งนี้ก็มีสถานที่ใหม่ๆ น่าสนใจหลายแห่งที่ไม่ควรพลาด หากทั้งผู้อ่านชาวไทยและชาวจีนได้มีเวลามาเดินเล่นในกรุงเทพฯนั้นไม่ควรพลาดที่นี่ นั่นคือ มิวเซียมสยาม หรือ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนถนนสนามไชย กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2551 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบโต้ตอบโดยใช้ตัวละคร 7 ตัวเป็นตัวกลางดำเนินเรื่องราวให้เชื่อมโยงกันและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมอย่างเป็นกันเอง มิวเซียมสยามดูแลโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ
รูป A บริเวณด้านหน้าของมิวเซียมสยาม
มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้นี้ ถือเป็นแหล่งการเรียนรู้หนึ่งที่เน้นจุดมุ่งหมายในการแสดงตัวตนของชนในชาติ ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าชมที่อยู่ในวัยเด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้รากเหง้าของชาวไทย โดยเน้นไปที่กลุ่มชนในเขตเมืองบางกอก หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า กรุงเทพมหานคร เป็นสำคัญ เนื่องจากตัวมิวเซียมสยามแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าเป็นคนไทยต่างจังหวัด จะไม่สามารถมาเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์นี้ได้ ด้วยเพราะสิ่งที่จัดแสดงในมิวเซียมสยามนี้ แสดงถึงความเป็นมาของชนชาติไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผ่านการนำเสนอด้วยสื่อผสมหลายรูปแบบ ทำให้มีความน่าสนใจ และดึงดูดใจผู้เข้าชมได้เป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังตั้งอยู่ในสถานที่สวยงามใจกลางย่านเมืองเก่า หรือ ย่านพระนคร นอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จากพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังได้ความรู้จากสถาปัตยกรรมรอบตัวที่รายล้อมที่นี่อีกด้วย อีกทั้งยังได้สัมผัสบรรยากาศ วิถีชุมชนเก่าย่านท่าเตียนที่ยังมีชีวิต และมีสีสัน นั่งดูเพลินจนลืมเวลาเลย
สำหรับการเข้าชมมิวเซียมสยามนั้น ทางพิพิธภัณฑ์จะให้เริ่มให้เข้าชมจากชั้น 1 โดยเป็นการ
แนะนำเรื่องราวนำเสนอผ่านทางภาพยนตร์สั้นประมาณห้านาที ต่อจากนั้นก็ให้เดินไปยัง 3 และสิ้นสุดลงที่ชั้น 2 และหัวใจสำคัญของการเยี่ยมชมที่นี่นั้นมีจุดมุ่งหมายในการปฏิรูป พิพิธภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด นำเสนอด้วยรูปแบบที่สร้างสรรค์และสนุกสนานโดยใช้กิจกรรมต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ฉะนั้น ข้าวของเครื่องใช้ที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์จะต้องเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ ถ่ายรูปกับสิ่งของต่างๆ ได้อย่างไม่หวงห้าม เพื่อสื่อความหมายในการเล่าเรื่องและเชื่อมต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์
รูป B ขณะนั่งเรือผ่านสะพานพระรามแปด วิวทิวทัศน์สวยงามสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
การเดินทางมาที่นี่ก็มีหลากหลายเส้นทาง แต่ผู้เขียนขอแนะนำเส้นทางใหม่ที่สร้างความประทับใจและเพลิดเพลินใจเป็นยิ่งนักนั่นคือ ทางเรือ โดยนั่งจากท่าเรือใดก็ได้ที่เรือด่วนเจ้าพระยาผ่าน แล้วมาลงที่ท่าเรือท่าเตียน ระหว่างบนเรือก็จะได้เห็นภาพชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและโบราณสถานที่สำคัญต่างๆ หลังจากนั้นเดินเล่นเพลินๆ ชมชุมชนเก่าที่ยังมีชีวิตและคึกคักอยู่ไม่เสื่อมคลาย หากมีเวลาก็แวะเข้าไปชมวัดโพธิ์หรือลองนวดกับโรงเรียนการนวดแผนไทยที่นั่นก็จะดีไม่น้อย หลังจากนั้นค่อยๆ เดินเลาะกำแพงวัดไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้ามิวเซียมสยาม หรือ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งใหม่ที่น่าสนใจและเป็นที่น่าภาคภูมิใจของกรุงเทพมหานคร
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์
หมายเหตุ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.museumsiam.org/about.php
รูปภาพและข้อมูลอ้างอิงจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Museum_Siam.jpg