ขณะที่สรุปผลสำเร็จของการเยือนครั้งนี้ สื่อมวลชนเกาหลีใต้ให้ความสำคัีญต่อหัวข้อสำคัญ 2 ประการ หนึ่งคือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์พันธมิตรกับสหรัฐฯ สองคือการประสานนโยบายต่อเกาหลีเหนือระหว่างสองประเทศ สำหรับอนาคตของพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ นั้น หนังสือพิมพ์โชซุนเดลีออกบทนำว่า "ปฏิญญาร่วมการครบรอบ 60 ปีของพัีนธมิตรเกาหลีใต้ – สหรัฐฯ " ได้ถือเอาความมั่นคงและการค้าเสรีระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ เป็นหลักสำคัญ 2 ประการของพันธมิตร หัวข้อต่อไปคือการปฏิบัติตามเนื้อหาของปฏิญญาดังกล่าว
ด้านนโยบายต่อเกาหลีเหนือ หนังสือพิมพ์โชซุนเดลีออกบทวิเคราะห์ว่า ในการประชุมผู้นำครั้งนี้ เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ไม่มีการเสนอแผนการต่อต้านเกาหลีเหนือฉบับใหม่ เพราะทั้งสองฝ่ายเห็นว่า ถ้าหากเกาหลีเหนือไม่หยุดการท้าทาย และไม่ยอมกลับมานั่งโ๊ต๊ะเจรจากัน แผนการใดๆ ล้วนไม่มีความหมาย ส่วนหนังสือพิมพ์จุนกันเดลีย์ออกบทความเห็นว่า เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ไม่สามารถออกแผนการยุทธศาสตร์ที่แก้ไขปัญหาคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้อย่า่งสิ้นเชิงนั้น เป็นสิ่งที่น่าเสียใจ ถ้าหากเพียงแต่รอคอยให้เกาหลีเหนือเกิดการเปลี่ยนแปลงเอง สถานการณ์ปัจจุบันของคาบสมุทรเกาหลีก็จะเข้มงวดยิ่งขึ้น
สำหรับปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ผู้นำทั้งสองประเทศสหรัฐฯ และเกาหลีใต้มีจุดยืนเช่นเดียวกัน และแสดงท่าทีอย่างแข็งกร้าวว่า จะไม่อดรนทนการคุกคามและการท้าทายจากเกาหลีเหนือ แต่ก็ได้เปิดช่องว่างการเจรจาให้กับเกาหลีเหนือด้วย สำหรับการนี้ ดร. จิน ชั่งหรง รองผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยประชาชนจีนเห็นว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้คงไม่ให้ความสำคัญต่อคำพูดคุกคามของเกาหลีเหนือ แต่จะโต้ตอบปฏิบัติการคุกคามของเกาหลีเหนือ ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ และเกาหลีใต้มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า การดำิเนินการเจรจากับเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่จำเป็น นอกจากนั้น สหรัฐฯ และเกาหลีใต้มีนโยบายต่อเกาหลีเหนือที่คล้ายกัน ซึ่งการเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ของนางสาวปาร์ค กึน เฮถือเป็นการสืบทอดและส่งเสริมท่วงทำนองที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ร่วมกันผลักดันนโยบายต่อเกาหลีเหนือซึ่งเริ่มตั้งแต่สมัย ลี เมียง ปัค อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้
(Yim/Lin)
