หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ "แดร์ สปีเกล" นิตยสารรายสัปดาห์ของเยอรมนีและหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เตียน (The Guardian) ของอังกฤษรายงานข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้ชาวสหภาพยุโรป โดยเปิดเผยเอกสารลับสุดยอดของนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯไม่เพียงแต่ติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังในองค์กรของสหภาพยุโรปเท่านั้น หากยังดักฟังข้อมูลของคณะทูตานุทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ประจำในกรุงวอชิงตัน และนิวยอร์คด้วย หลังมีการเปิดเผยข่าวดังกล่าว เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปพากันออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯชี้แจงเรื่องนี้
ขณะนี้ เหตุการณ์กำลังบานปลายต่อไป สิ่งที่จะตามมาอย่างแน่นอนคือ เหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ
ประการแรก เหตุการณ์นี้จะทำให้สหภาพยุโรปลดความไว้วางใจต่อสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าสหภาพยุโรปเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯก็ตาม แต่ทั้งสองฝ่ายมีข้อขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมาโดยตลอด นอกจากนี้ ประเทศยุโรปจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยกับปฏิบัติการต่อต่างประเทศบางประการของสหรัฐฯ และยังมีข้อกังขาต่อการดำเนินแผนการยุทธศาสตร์เอเชียแปซิฟิคเพื่อสร้างสมดุลของสหรัฐฯ การดักฟังข้อมูลของสหภาพยุโรปโดยสหรัฐฯนั้นยิ่งทำให้สหภาพยุโรปลดความไว้วางใจต่อสหรัฐฯ
ประการที่สอง เหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯและสหภาพยุโรป หลังสหรัฐฯผลักดันการสร้างเขตการค้าเสรีมหาสมุทรแอตแลนติก การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯไม่ได้เกิดทันที แต่พึ่งมาจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ มีความต้องการที่แตกต่างกันต่อเขตการค้าเสรีที่จะจัดตั้งขึ้น จริงๆ แล้ว การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอยู่แล้ว เหตุการณ์ดักฟังข้อมูลย่อมสร้างอุปสรรคมากขึ้นให้แก่การเจรจาการค้าเสรี
นอกจากนี้ ปีหลังๆ นี้ ชาวยุโรปและชาวสหรัฐฯต่างผิดหวังกับแนวคิดทางการเมืองดั้งเดิมมากขึ้น ความคิดหัวรุนแรง และลัทธิเชื้อชาติทวีความรุนแรงขึ้น ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์การดักฟังข้อมูลโดยสหรัฐฯอาจทำให้เหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น หากสหรัฐฯไม่สามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสหภาพยุโรปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และผลประโยชน์โดยรวมของทั้งสองฝ่ายมีความเกี่ยวพันกัน นอกจากนี้ ไม่ว่ามองในแง่ประวัติศาสตร์ หรือความต้องการในปัจจุบัน ทั้งสหภาพยุโรปและสหรัฐฯคงไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์นี้บานปลายต่อไปอีก ถึงแม้ว่าสหภาพยุโรปจะออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงก็ตาม แต่คงจะควบคุมความรุนแรงให้อยู่ในระดับหนึ่ง และเปิดช่องทางการเจรจาไว้ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายได้รับผลกระทบทางลบมากเกินไป
(YING/cai)