เกษตรกรชนเผ่าอุยกูร์วัย 62 ปีรายหนึ่งในอำเภอยั่วเชียงของซินเจียง อาชีพจำหน่ายพุทราแดง แต่ละปีมีรายได้จำนวนกว่าหลายแสนหยวน เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "มีเพียงความมั่นคงทางสังคมเท่านั้น จึงจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ เมื่อเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ชีวิตของชาวบ้านเราจึงจะนับวันดีขึ้นได้ และเชื่อมั่นว่า ชนเผ่าต่างๆ มีความรักความผูกพันกันมาอย่างแน่นแฟ้นเป็นเวลานาน ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุก่อการร้ายเหล่านี้"
หญิงสาวชนเผ่าอุซเบกรายหนึ่งเพิ่งจัดพิธีมงคลสมรสเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอให้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "ซินเจียงเป็นบ้านของดิฉัน ดิฉันก็เหมือนกับผู้รักสันติภาพทุกคน ต้องการชีวิตที่สันติ มั่นคง และเพียงพอ ดิฉันก็เกลียดชังการทารุณกรรมเหมือนกับทุกคน เกลียดการกระทำที่ทำลายความปรองดองระหว่างชนเผ่าและความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน"
อำเภอปกครองตนเองทาจิกแห่งทากซ์โกร์กันของซินเจียงตั้งอยู่บนที่ราบสูงปามีร์ส์ ทางภาคตะวันตกสุดของจีน ประชากรร้อยละ 60 เป็นชาวทาจิก นักเรียนชนเผ่าทาจิกชั้น ม.2 รายหนึ่งในท้องถิ่นระบุว่า "คุณครูและครอบครัวสั่งสอนเรามาโดยตลอดว่า ต้องทะนุถนอมรักษาความสันติสุข จึงจะมีอนาคตที่ดีงามได้"
หลังเกิดเหตุก่อการร้าย เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวซินเจียงมีความตระหนักมากขึ้นว่า การรักษาความมั่นคงทางสังคมเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของชนเผ่าต่างๆ ทุกคนล้วนควรมีส่วนร่วมพิทักษ์และสร้างบ้านเมืองให้น่าอยู่ร่วมกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งในหมู่บ้านปาเหริน อำเภออาเค่อเถา ทางตอนใต้ของซินเจียงระบุว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจควรเป็นโล่หนุนหลังพี่น้องประชาชนที่แข็งแกร่งที่สุด ยินดีปกป้องรักษาความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ รวมถึงปราบปรามผู้ก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่มั่นคงและสันติ"
(YING/LING)