สถิติจากกรมการขนส่งทางบกของไทยระบุว่า จนถึงปลายปีที่แล้ว ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในไทยมีจำนวน 1,325,000 คัน คิดเป็นร้อยละ 10.6 ของปริมาณยานยนต์ทั้งประเทศ ในจำนวนดังกล่าว รวมถึงรถแท็กซี่ รถส่วนบุคคล รถประจำทาง รถบรรทุกผู้โดยสารและรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่
ข้อดีที่สุดในการใช้รถก๊าซธรรมชาติคือ ลดการปล่อยมลพิษให้น้อยลง เนื่องจากมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ช่วยทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานได้มากขึ้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายโดยรวมก็ถูกกว่าน้ำมันเบนซินด้วย
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นแรงจูงใจให้ชาวไทยเจ้าของรถจำนวนมากหันมาปรับเปลี่ยนเป็นรถใช้ก๊าซธรรมชาติ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกของไทยระบุว่า ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ ตกประมาณ 2-3 หมื่นบาทเท่านั้น ดังนั้น ในปี 2012 ทั่วประเทศไทยจึงมีรถที่ลงทะเบียนรับการปรับเปลี่ยนเป็นรถก๊าซธรรมชาติแล้วจำนวน 133,000 คัน พร้อมกันนี้ รัฐบาลไทยก็เดินหน้าโครงการปรับเปลี่ยนรถประจำทางเป็นรถเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายนปีนี้ มีการอนุมัติโครงการจัดซื้อรถประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ จำนวน 3,183 คัน ภายในเวลา 1 ปีข้างหน้า ด้วยวิธีการเรียกประมูล จากนั้นจะเลิกใช้รถประจำทางที่ใช้น้ำมันเป็นเวลากว่า 10 ปี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องยังไม่สมบูรณ์พอ เช่น สถานีให้บริการก๊าซธรรมชาติยังมีไม่พอเพียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกกรุงเทพฯ ทำให้การเติมก๊าซธรรมชาติมักจะต้องเข้าคิวยาวรอนานเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ดังนั้น ทางการท้องถิ่นจึงกำลังเร่งสร้างสถานีบริการก๊าซธรรมชาติให้เร็วขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ
(YIM/LING)