ตามข้อมูลที่เปิดเผยโดยนายสโนว์เดน เฉพาะเดือนมกราคมปีนี้ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ เอ็นเอสเอ (NSA) ได้ดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์และแอบเก็บอีเมลในบราซิลรวมทั้งสิ้นหลายพันล้านชิ้น เมื่อเทียบกับจำนวน 2300 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นจำนวนข้อมูลทีุ่ถูกดักฟังและลักลอบในสหรัฐฯ แล้ว น้อยกว่าเพียงเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลบราซิลจึงรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อการที่ชาวบราซิลได้ตกเป็นเป้าหมายการทำจารกรรมขององค์กรข่าวกรองสหรัฐฯ
หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเปิดเผยแล้ว นางดิลมา รุซเซฟ ประธานาธิบดีบราซิลได้จัดการประชุมเพื่อพิจารณาวิธีการรับมือกับเหตุการณ์ถูกสหรัฐฯ สอดแนม และกำหนดมาตรการ 4 ประการ ได้แก่ หนึ่ง เรียกร้องให้สหรัฐฯ อธิบายเรื่องการลักลอบสอดแนมบราซิล สอง ตรวจสอบบริษัทโทรคมนาคมที่สงสัยเกี่ยวพันกับโครงการสอดแนมลับของสหรัฐฯ และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในบราซิล สาม ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ต และสี่ กระชับความร่วมมือกับต่างประเทศในด้านความปลอดภัยทางอิเตอร์เน็ต
วันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลบราซิลได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ให้คำอธิบายต่อเรื่องดังกล่าว โดยผ่านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำบราซิลและสถานเอกอัครราชทูตบราซิลประจำสหรัฐฯ แต่จนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังไม่ได้ให้คำตอบอย่างชัดเจน