การเลือกตั้งสมชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่นได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา พรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคโคเมอิโตะใหม่ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลได้รับชัยชนะโดยมีที่นั่งกว่าครึ่งหนึ่งในสภาสูง ทำให้สถานการณ์ที่พรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านต่างควบคุมสภาสูงกับสภาผู้แทนราษฎรได้สิ้นสุดลง
นักสังเกตการณ์เห็นว่า พรรคโคเมอิโตะใหม่อาศัย "ไพ่เศรษฐกิจ" ทำให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ในระหว่างการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะโฆษณาผลงานจาก "เศรษฐศาสตร์อาเบะ" ขณะกล่าวปาฐกถาในท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น ราคาหุ้นปรับสูงขึ้น เงินเยนลดค่าลง และบริษัทใหญ่ได้ผลกำไรดีขึ้น
นักวิเคราะห์เห็นว่า หลังจากได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งสภาสูงแล้ว กิจการภายในและการต่างประเทศของญี่ปุ่นจะพัฒนาไปยังทิศทางไหนเป็นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งมีความไม่แน่นอนดังนี้
1. "เศรษฐศาสตร์อาเบะ" จะมีผลใช้อย่างต่อเนื่องต่อไปได้หรือไม่ ปัญหานี้จะชี้ขาดอายุของอำนาจรัฐบาลอาเบะ นายอุอิชิโร นิวะ(Uichiro Niwa) อดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำจีนชี้แจงว่า "เศรษฐศาสตร์อาเบะ" อาจจะทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นถูกโจมตีอย่างหนักได้ จึงยังต้องคอยดูต่อไปว่า รัฐบาลอาเบะจะลดผลทางลบที่ได้มาจาก "เศรษฐศาสตร์อาเบะ" ได้หรือไม่
2. ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากหวังว่า พรรคโคเมอิโตะใหม่และพรรคอื่นๆ จะยับยั้งนายอาเบะปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผู้เชี่ยวชาญปัญหาญี่ปุ่นบางคนคาดว่า หากนายอาเบะยืนกรานปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป จะสูญเสียการสนับสนุนของประชาชน และส่งผลเสียต่อความมั่นคงของอำนาจรัฐ
3. นายอาเบะจะทำลายภาวะชะงักงันระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศเพื่อนบ้านได้หรือไม่ เนื่องจากปัญหาดินแดนและปัญหาประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนและเกาหลีใต้ตึงเครียดเป็นเวลายาวนานแล้ว ในช่วงการเลือกตั้ง นายอาเบะได้ไปดูงานที่เกาะ อิชิกากิ-จิมา(Ishigaki-jima) และเกาะมิยาโก-จิมา(Miyako-jima) ในบริเวณหมู่เกาะเตี้ยวยวี๋ ประชาชนญี่ปุ่นจำนวนมากเป็นห่วงว่า การกระทำเช่นนี้เป็นการกระตุ้นประเทศเพื่อนบ้านอีกครั้ง
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ถ้านายอาเบะปลุกระดมลัทธิชาตินิยมของญี่ปุ่นด้วยปัญหาประวัติศาสตร์ ดินแดนและนโยบายการป้องกันประเทศต่อไป จะขาดความเชื่อถือจากประชาคมโลกมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของเอเชียตะวันออกมากยิ่งขึ้นด้วย
Yim/Lr