เมื่อบ่ายวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะผู้แทนสื่อมวลชนจาก 4 ประเทศ ไทย ลาว เมียนมาร์และกัมพูชา ซึ่งมาร่วมกิจกรรม โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมและพุทธศาสนาประจำปี 2013 กับผู้สื่อข่าวจากซีอาร์ไอรวมกว่า 20 คนเดินทางไปสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งประดิษฐานในวัดหลิงกวงกรุงปักกิ่งที่มีอายุกว่าหนึ่งพันปี

วัดหลิงกวางสร้างในสมัยราชวงศ์ถัง มีประวัติกว่า 1200 ปีแล้ว เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เหลียวเมื่อหนึ่งพันกว่าปีก่อน และพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วที่ประดิษฐานในวัดหลิงกวงเป็นหนึ่งในพระเขี้ยวแก้วสององค์ที่เหลืออยู่ในโลก อีกทั้งเป็นองค์เดียวที่ได้รับการสักการะบูชาจากพุทธศาสนิกชน

เจ้าอาวาสวัดหลิงกวงแนะนำว่า พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วองค์นี้เคยถูกอัญเชิญไปประดิษฐานในเมียนมาร์เมื่อปี 1955 ปี1994 ปี1996 และปี 2011 และได้ไปประดิษฐานในศรีลังกาและฮ่องกงเมื่อปี 1961 และปี 1999 รวมถึงถูกอัญเชิญไปประดิษฐานในประเทศไทยและร่วมเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาครบ 75 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อปี 2002 นอกจากนี้ เดือนพฤษภาคมและเดือนสิงหาคมหรือกันยายนของทุกปี พระเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วจะเปิดให้สาธารณชนเข้าไปสักการะบูชาเป็นเวลา 1 เดือนถึง 40 วัน

กิจกรรม"โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมและพุทธศาสนา ประจำปี 2013"จะจัดเป็นเวลา 9 วัน โดยคณะสื่อมวลชนจะไปเยือนวัดกว่างจี้ วัดหลิงกวง วัดหลงเฉวียนและวัดลามะในกรุงปักกิ่ง แล้วจะเดินทางไปเยือนวัดโซ่วโฝ เมืองจือซิง มณฑลหูหนานในระหว่างวันที่ 25 – 27 กรกฎาคม