"ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คุณงามความดีประการใหญ่สุดที่จีนกับอาเซียนร่วมกันทำคือ ได้สร้างแบบอย่างในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพร่วมกันในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นไม่ได้ในพื้นที่อื่นๆ ของเอเชีย ดังนั้น หากพิจารณาความสัมพันธ์จีน-อาเซียนจากระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จะพบว่านี่เป็นความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีความมั่นคงและพัฒนาเร็วที่สุด"
ดร.ไจ๋ คุนระบุว่า เวลานี้อนาคตเศรษฐกิจโลกไม่มีความแจ่มใส เศรษฐกิจของประเทศที่เจริญขึ้นใหม่บางประเทศมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลง ซึ่งสร้างการท้าทายอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน อาเซียนและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ดังนั้น ทุกประเทศเอเชียจึงควรเข้าใจความสำคัญของเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่สันติและมั่นคงเพื่อการพัฒนาด้วยกัน
เขาระบุว่า "จีนกับอาเซียน รวมถึงประเทศเอเชียอื่นๆ มีผลประโยชน์ที่มากกว่าเดิม ก็คือ 'ศตวรรษแห่งเอเชีย' ที่เราพูดกันบ่อย ส่วนผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดคือ จีนกับอาเซียนร่วมกันพิทักษ์ 'ศตวรรษแห่งเอเชีย' พิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพ ภายใต้กรอบใหญ่สุดนี้ เราก็จะสามารถมองข้อพิพาทและการปะทะต่างๆ ที่มีอยู่ระหว่างสองฝ่ายให้เป็นเรื่องเล็กๆ ได้ เพราะว่าเป็นที่กระจ่างแจ้งแล้วว่าอันไหนเป็นเรื่องใหญ่ อันไหนเป็นเรื่องเล็ก"
สุดท้ายดร.ไจ๋ คุนระบุว่า ระหว่างกระบวนการเจรจา จีนกับอาเซียนควรรักษาจังหวะการก้าวให้เป็นหนึ่งเดียวบนพื้นฐานของฉันทามติ อีกทั้งประกาศกระบวนการและเป้าหมายต่อภายนอก เดินหน้า "การสร้างหลักบรรทัดฐาน" อย่างเป็นระบบระเบียบ เราควรแจ้งผลการเจรจาจีน-อาเซียนให้ภายนอกรับทราบอย่างทันกาล เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศอื่น หรือ อคติใดๆ ดันให้การปะทะระหว่างสองฝ่ายทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
(YIM/LING)