ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่กรมเอเชียกระทรวงการต่างประเทศจีน สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน และสำนักงานการท่องเที่ยวไทยประจำกรุงปักกิ่ง โดยได้รับคำตอบเหมือนกันว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย และกรมเอเชียกระทรวงการต่างประเทศจีนยังบอกว่า เรื่องนี้เพียงอยู่ในขั้นตอนการคุยกันเท่านั้น ยังไม่ถึงระดับเจรจากัน และเป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน
สาเหตุที่ข่าวนี้มีการแพร่หลายอย่างรวดเร็ว อาจเพราะว่าฝ่ายไทยมีความปรารถนาที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยเวลาเยือนจีนมักแสดงความปรารถนาดังกล่าวต่อฝ่ายจีนด้วย
หากยกเลิกวีซ่าระหว่างกัน จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นหลายเท่า คาดว่าแต่ละปีจะมีชาวจีนไปเที่ยวไทยถึง 5 ล้านคน ซึ่งจะนำรายได้เข้าประเทศไทยมากขึ้น นอกจากนี้ เส้นทางท่องเที่ยวก็จะมีความหลากหลายมากขึ้น จะมีคนเที่ยวแบบอิสระด้วยตนเองมากขึ้น ดังนั้น นักท่องเที่ยวจีนก็ปรารถนาที่จะให้สองประเทศยกเลิกวีซ่าระหว่างกันโดยเร็ว จึงพากันเชื่อว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง
ปัจจุบัน หากชาวจีนอยากไปเที่ยวประเทศไทย ต้องไปทำวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลไทยประจำประเทศจีน ใช้เวลา 3- 4 วัน จ่ายเงิน 230 หยวน หรือมีอีกวิธีหนึ่งคือผ่านประเทศที่ 3 เข้าประเทศไทย สามารถทำวีซ่าในด่านศุลกากร จ่ายเงิน 1,000 บาท ซึ่งเท่ากับประมาณ 200 หยวน