ตั้งแต่รัฐบาลเมียนมาร์ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวเป็นเวลา 4 เดือนเป็นต้นมา ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในเมืองเมย์ทิลาของเมียนมาร์ที่เกิดเหตุจลาจลเมื่อเร็วๆ นี้ได้ฟื้นคืนเป็นปกติ แต่ยังมีชาวมุสลิมกว่า 1,000 คนพักอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยชั่วคราว ในเหตุจลาจลนี้ เว็บไซต์เป็นช่องทางสื่อสารที่เพิ่มความเคลือบแคลงสงสัยและการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันระหว่างผู้นับถือศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม ดังนั้น มีความจำเป็นและความเร่งด่วนที่ต้องควบคุมและกำกับดูแลเว็บไซต์ในเมียนมาร์
ผู้เชียวชาญด้านการศึกษาวิจัยเอเชียตะวันออกของมหาวิทยาลัยสิงคโปร์กล่าวว่า เว็บไซต์มีบทบาทเชิงลบและเชิงบวกในการเปลี่ยนแปลงการเมืองของเมียนมาร์ในช่วงหลังๆ มานี้ เช่น เหตุจลาจลรัฐยะไข่ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว การรายงานข้อมูลผ่านเว็บไซต์ทำให้ผู้คนได้ทราบสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮิงยาเป็นอย่างไร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและฟื้นฟูการสร้างสรรค์ แต่คำพูดที่เต็มไปด้วยความเกลียดแค้นและภาพที่เปื้อนเลือดที่ไม่เหมาสมก็อัพโหลดขึ้นในเว็บไซต์ จึงทวีความตึงเครียดของสถานการณ์ ดังนั้น เมียนมาร์ควรให้ความสำคัญในการควบคุมและกำกับดูแลเว็บไซต์อย่างเข้มงวด
Yim/kt