วานนี้ (25 สิงหาคม 2556) นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติแถลงผ่านโฆษกว่า หน่วยตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจะเริ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมนี้
เขาเรียกร้องให้หน่วยตรวจสอบทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง และหน้าที่เร่งด่วนที่สุดคือตรวจสอบข่าวเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีบริเวณชานเมืองดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ เขายังย้ำว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่หน่วยตรวจสอบ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยของคณะทำงานด้วย
กระทรวงการต่างประเทศซีเรียระบุในวันเดียวกันว่า ซีเรียกับสหประชาชาติเห็นร่วมกัน โดยยินยอมให้หน่วยตรวจสอบเข้าตรวจสอบในเขตชานเมืองดามัสกัสเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง
แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวตั้งข้อสังเกตว่า หากรัฐบาลซีเรียไม่ได้บิดบังข้อเท็จจริง และต้องการพิสูจน์ว่าไม่ได้ใช้อาวุธเคมี ก็ควรหยุดทิ้งระเบิดในพื้นที่ที่ต้องสงสัยว่าถูกอาวุธเคมีโจมตี พร้อมอนุมัติให้หน่วยตรวจสอบเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่หลายวันก่อน แต่รัฐบาลซีเรียเพิ่งจะอนุมัติให้หน่วยตรวจสอบเข้าสู่เขตดังกล่าวในเวลานี้ซึ่งถือว่าสายเกินไป ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะหลักฐานของการใช้อาวุธเคมีและปฏิบัติการอื่นๆ ถูกระเบิดทำลายหมดแล้ว หากพิจารณาจากจำนวนของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว อาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ และคำบรรยายของผู้ที่เห็นกับตา หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯเชื่อได้ว่า รัฐบาลซีเรียได้ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนอย่างแน่นอน
ด้านนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้เตรียมความพร้อมเพื่อปฏิบัติการตามคำสั่งของประธานาธิบดีแล้ว โดยทหารเรือสหรัฐฯ ได้เพิ่มกำลังรบในน่านน้ำ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงเรือพิฆาตที่ติดตั้งจรวดโทมาฮอว์ก 4 ลำ
เจ้าหน้าที่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า หากสหรัฐฯ ตัดสินใจจะเข้าแทรกแซงซีเรียด้วยกำลังรบ ก็จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีซีเรียด้วยการยิงจรวดจากเรือพิฆาตเหล่านี้ก่อน
Nune/Lr