ในที่ประชุมสแถลงข่าวที่จัดขึ้นโดยสำนักงานข่าวสารแห่งคณะรัฐมนตรีจีนเมื่อวันที่ 16 กันยายน นายเซิ่ง ไหลยุ่น ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า พิจารณาจากข้อมูลสถิติทางเศรษฐกิจของเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ ปัจจัยทางบวกที่มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดี ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนได้เกิดเปลี่ยนแปลงที่แข็งขันแล้ว ภายใต้นโยบายสร้างสรรค์ผลนวัตกรรมที่เน้นการเติบโตที่มีเสถียรภาพ การปรับโครงสร้างและการกระตุ้นการปฏิรูปของรัฐบาลกลาง

ผู้อำนวยการใหญ่ผู้นี้แนะนำว่า ปัจจุบัน ปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังดำเนินไปในทางที่ดีนี้มีอยู่ 4 ข้อ ได้แก้ 1)การคาดการณ์จากทั่วทั้งสังคมค่อนข้างดี ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 51% นับเป็นระดับสูงที่สุดในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าสังคมจีนเล็งผลเสิศกับแนวโน้มการพัฒนาของอุตสาหกรรมการผลิตในช่องหลังของปี 2013 นี้ 2)สถานการณ์ด้านอุปทานและอุปสงค์ปรับไปในทางที่ดี ดัชนีราคาผู้ผลิตหรือ PPI เดือนสิงหาคมอยู่ที่ -1.6% ถึงแม้จะยังติดลบก็ตาม แต่ขยายตัวขึ้น 0.1% เมี่อเทียบกับระยะเดียวกันของเดือนที่แล้ว และเป็นอัตราการเติบโตทางบวกครั้งแรกหลังจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา 3)สถานการณ์ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real economy)มีความคึกคักกว่าเดิม มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 4)ภาวะแวดล้อมนอกประเทศดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้การส่งออกของจีนเติบโตขึ้นต่อไป

ด้วยเหตุนี้ นายหยาง ซูปิง อธิบดีกรมสารสนเทศสำนักงานวิจัยแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่า เศรษฐกิจภาครวมของจีนกำลังอยู่ในขอบเขตดำเนินการที่เป็นปกติ จึงมีความเป็นไปได้ไม่มากนักที่จะประกาศใช้แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างขนานใหญ่รอบใหม่ เขาอธิบายว่า "ในช่วงที่เศรษฐกิจดิ่งลง การใช้มาตรการกระตุ้นแบบระยะสั้นเพื่อดึงให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นมาได้นั้นเป็นเรื่องสมเหตุสมผลอย่างเต็มที่ ถึงแม้เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ทั้งวิธีและช่องว่างการแก้ปัญหาต่างลดน้อยลงอย่างมาก แต่การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นยังคงมีผลดี แต่คราวนี้ไม่ได้ทำเช่นนี้ เพราะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล การกำหนดนโยบายให้มีเสถียรภาพนั้น สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับการปรับโครงสร้าง"

YIM/FENG