เช้าวันที่ 24 กันยายนนี้ นายหนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้บรรยายในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯถึงสภาพในปัจจุบันและอนาคตแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทย และจีน-อาเซียน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นายหนิง ฟู่ขุยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเขากล่าวว่า ในระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนหลังเข้ารับตำแหน่งนี้ เขาซาบซึ้งในมิตรภาพระหว่างประชาชนจีนและไทย ซึ่งรักกันเสมือนญาติในครอบครัวเดียวกัน ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยเป็นแบบอย่างแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีระบอบสังคมต่างกันที่จะให้อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ มีความร่วมมือแบบเกื้อกูลกัน และพัฒนาร่วมกัน นายหนิง ฟู่ขุย ยังกล่าวถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทย โดยแสดงความเห็นว่า ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเติบโตอย่างรวดเร็วมาก คาดว่า ยอดมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศในปีนี้จะสร้างสถิติใหม่ เขายังกล่าวว่า "ช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศมีการเยือนซึ่งกันและกันบ่อยครั้ง ความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก จีนกลายเป็นประเทศเป้าหมายการส่งออกสินค้าใหญ่อันดับแรก และแหล่งนำเข้าสินค้าใหญ่อันดับสองของไทย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ส่งนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่สุดไปไทย สำหรับประเทศไทยเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับสองของจีนในบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งยอดมูลค่าการค้าระหว่างจีนและไทยในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมนี้สูงถึง 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากพิจารณาจากสภาพในปัจจุบัน คาดว่ายอดมูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศในปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายหนิง ฟู่ขุย ยังกล่าวว่า ขณะนี้ ความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและไทยกำลังพัฒนาคืบหน้าอย่างรวดเร็ว และอยู่ในจุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์ จึงมั่นใจได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศมีอนาคตสดใส และมีศักยภาพแห่งความร่วมมือมหาศาล เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "จีนและไทยมีความตกลงว่าจะให้ยอดมูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2015 และจะเน้นพัฒนาความร่วมมือด้านการรถไฟ ชลประทาน พลังงานสีเขียว และการศึกษา อีกทั้งได้กำหนดโครงการความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และทะเลหลายโครงการ ด้วยสาเหตุเหล่านี้ จากนี้ไป ทั้งสองประเทศจะต้องร่วมกันขับเคลื่อนโครงการร่วมมือที่ตกลงกันไว้แล้ว เพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จโดยเร็ว "

นายหนิง ฟู่ขุย ยังกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีครบรอบ 10 ปีแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและอาเซียน ช่วง 10 ปีมานี้ การพัฒนาความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนฯนี้ได้ประสบผลสำเร็จมาก ในวันข้างหน้า จีนยังคงจะใช้แนวทางการทูตที่ให้ความสำคัญมากที่สุดกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศรอบข้างต่อไป และพยายามยกระดับเขตการค้าเสรีจีนและอาเซียนให้สูงยิ่งขึ้น

(YIM/cai)