ข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organization – WTO) ปรากฏว่า ปี 2012 (พ.ศ. 2555 ) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศมีกว่า 80 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2000 (พ.ศ. 2543 ) ที่มีเพียง 10 ล้านคน

ข้อมูลสถิติยังระบุว่า ปี 2012 การใช้จ่ายในต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีนสูงถึง 102,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการสร้างสถิติใหม่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ผู้อำนวยการขององค์การการท่องเที่ยวโลกที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงมาดริดกล่าวว่า การใช้จ่ายในต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มชนชั้นกลางที่เติบโตขึ้นในจีนนั้น กำลังเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยว ซึ่งย่อมจะทำให้โฉมหน้าการทองเที่ยวของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง

เมื่อเร็วๆ นี้ หนังสือพิมพ์ Financial times ของอังกฤษรายงานว่า ประเทศมอริเชียส เซเชลส์ และมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย ที่ได้รับขนานนามว่าเป็น ไข่มุก 3 เม็ดงามแห่งมหาสมุทรอินเดีย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีฐานะของประเทศต่างๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวของ 3 ประเทศนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจเพิ่มขึ้น

ตั้งแต่ปี 2007 ที่ทั่วโลกเกิดวิกฤตการเงิน สามประเทศดังกล่าวที่อยู่ระหว่างชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออกของแอฟริกากับอินเดีย ได้รองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดน้อยลงอย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวของอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมันมีเงินใช้ในการท่องเที่ยวน้อยลง จึงมักเดินทางไปประเทศที่ใกล้ๆ

ฉะนั้น การที่นักท่องเีที่ยวจีนทยอยกันเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย อาจกล่าวได้ว่าเป็นการกู้วิกฤตการท่องเที่ยวของสามประเทศนี้ สถิติทางการปรากฏว่า ปี 2012 มัลดีฟส์ มอริเชียสและเซเชลส์ได้รองรับนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 250,000 คน เพิ่มขึ้น 1 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2010 ทำให้สามประเทศนี้ยังคงรักษาสถิติรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวน 21 ล้านคนเช่นเดิม

คาดว่าปี 2013 ประเทศหมู่เกาะทั้งสามประเทศนี้จะรองรับนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 300,000 คน ซึ่งก่อนการเกิดวิกฤตการเงินปี 2007 สามประเทศนี้รองรับนักท่องเที่ยวจีนไม่ถึง 40,000 คน

สถิติทางการยังแสดงว่า การท่องเที่ยวมีฐานะสำคัญในเศรษฐกิจของสามประเทศดังกล่าว ซึ่งได้ครองสัดส่วน 10% - 30% ของมวลรวมการผลิตภายในประเทศหรือ จีดีพี ของประเทศเหล่านี้ และในปีที่แล้ว ยอดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มัลดีฟส์รองรับนั้น 1 ใน 4 มาจากจีน ครองอันดับ 1 ของตารางจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เบียดอังกฤษและเยอรมนีถอยตกไปอยู่อันดับ 2 และ3

ประธานกรรมการของกลุ่มบริษัทผู้ประกอบกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ในมอริเชียสกล่าวว่า "เราต้องการนักท่องเที่ยวจีนอย่างมาก เพราะว่าปัจจุบัน นักท่องเที่ยวยุโรปไม่ค่อยใช้เงินง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว"

(Yim/Lin)