李克强访泰-国会演讲
|
กรุงเทพฯ - 11 ตุลาคม 2256 เวลา 12.30 น. นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองด้วยเที่ยวบินพิเศษในฐานะแขกของรัฐบาล การมาเยือนครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งแรก ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอกรองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้แทนรัฐบาลให้การต้อนรับ
เวลา 15.00 น. นายหลี่เค่อเฉียงได้เดินทางไปที่รัฐสภา โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรให้การต้อนรับ นายหลี่เค่อเฉียงได้ทำการวางพานพุ่ม, เข้าลงนามสมุดเยี่ยม และเข้าห้องประชุมเพื่อปรึกษาหารือข้อราชการ หลังจากนั้นนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เข้ามายังห้องประชุมรัฐสภาเพื่อทำการกล่าวปาฐกถา ใจความสำคัญในการกล่าวฯมีดังนี้ นายหลี่เค่อเฉียงได้ชื่นชมประเทศไทยให้ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์หรือด้านเศรษฐกิจตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และกล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีประหนึ่งพี่น้องญาติมิตรที่มีต่อกันมายาวนานของทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ไทยและจีนในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือศิลปวัฒนธรรม โดยนายหลี่เค่อเฉียงได้เสนอแนะให้ทั้ง 2 ประเทศมุ่งพัฒนาอนาคตด้วยกัน สืบทอดการเยือนและแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ, กระชับความร่วมมืออย่างจริงจัง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า และด้านอื่นๆ, ร่วมมือกันพัฒนาในเรื่องการคมนาคมและสาธารณูปโภคด้านพื้นฐาน และสุดท้ายคือเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีจีนยังได้กล่าวคำทักทายเป็นภาษาไทยว่าสวัสดีครับ และจบการปาฐกถาด้วยคำว่า "ขอบคุณ" เรียกเสียงปรบมือกึกก้องทั่วห้องประชุมรัฐสภา
เวลา 16.45 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีต้อนรับ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการและการตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีจีนร่วมกันหารือข้อราชการเต็มคณะ ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีจีน ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงภาครัฐระหว่างไทย-จีน จำนวน 6 ฉบับได้แก่ บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีนว่าด้วยโครงการความร่วมมือระดับรัฐบาลด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้น ฐานในประเทศไทยที่เชื่อมโยงกับการขำระค่าใช้จ่ายด้วยสินค้าเกษตร, ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งราช อาณาจักรไทยและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน, ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริม 4 โครงการความร่วมมือภายใต้โครงการความเป็นหุ้นส่วนทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอาเซียน-จีน ระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, แผนปฏิบัติการ 5 ปี สำหรับความร่วมมือทางทะเลไทย-จีน ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักไทยกับทบวง กิจการทางมหาสมุทรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, แผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่ง ราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างปี 2557-2559 การลงนามความตกลงของภาคเอกชน จำนวน 2 ฉบับ คือ การลงนาม MOU ข้าว และ การลงนามสัญญา Financial Framework ระหว่าง Country Group Development และ Beijing Construction Engineering Group
จากนั้นทั้งสองฝ่ายร่วมกันแถลงข่าวผลการหารือ ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี โดยสาระสำคัญ ได้แก่ เห็นพ้องจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการส่งเสริมการค้าระหว่างกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้ารวม 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2015 ในด้านสินค้าเกษตร, โครงการความร่วมมือด้านรถไฟ และพร้อมลงนามใน MOU ความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านรถไฟในประเทศไทยที่จะชำระค่าใช้จ่ายบางส่วนเป็นสินค้าเกษตร, ทางไทยสนับสนุนข้อเสนอของจีนที่จะจัดตั้ง "ธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย" เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายคมนาคมของภูมิภา8และทางฝั่งจีนยินดีรับข้อเสนอในการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย โดยจะให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายหารือรายละเอียดกันต่อไป ก่อนจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล
กำหนดการเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งนี้อยู่ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2556 รวมทั้งสิ้น 3 วัน
เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿