สื่อมวลชนวิเคราะห์ว่า เวียดนามเป็นประเทศสุดท้ายของการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของนายหลี่ เค่อเฉียงครั้งนี้ ความสัมพันธ์จีน-เวียดนามได้รับผลคืบหน้าสำคัญ โดยเฉพาะการจัดตั้งหน่วยปรึกษาหารือเพื่อบุกเบิกพัฒนาทะเลร่วมกัน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า สองฝ่ายยินยอมแก้ไขปัญหาด้วยความร่วมมือ นายกฯ ของสองประเทศต่างเห็นว่า "ความเห็นที่ตรงกันและผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนกับเวียดนามสำคัญกว่าข้อขัดแย้ง" สองฝ่ายควรปฏิบัติตามทิศทางของยุทธศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เดินตามหนทางความร่วมมือที่อำนวยผลประโยชน์แก่กันและได้ผลประโยชน์ร่วมกัน พยายามขยายความคิดสร้างสรรค์ แก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นปัญหาเดียวที่ตกค้างอยู่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ข้อเสนอของนายกฯ หลี่ เค่อเฉียงได้รับการตอบสนองอย่างแข็งขันจากเวียดนาม นายกฯ เหงียน เติ๋น สุงเห็นชอบข้อเสนอของนายกฯ หลี่ และกล่าวว่า เวียดนามจะส่งเสริมความร่วมมือทางทะเล ทางบก และทางการเงินกับจีน จัดการกับข้อขัดแย้งอย่างเหมาะสม เพื่อส่งความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายให้พัฒนาต่อไป
ขณะนี้ จีนกับเวียดนามต่างอยู่ในช่วงสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สองฝ่ายต่างถือการพัฒนาของอีกฝ่ายเป็นโอกาสการพัฒนาของตน จนถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างสองฝ่ายมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปีนี้มีหวังจะบรรลุเป้าหมาย 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนเวลากำหนด จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามอย่างต่อเนื่องมา 9 ปีแล้ว ส่วนเวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่ 5 ในอาเซียนของจีน
เนื่องจากเหตุผลทางประวัติศาสตร์และสภาพความเป็นจริง จีนกับเวียดนามยังมีข้อขัดแย้งทางทะเลดำรงอยู่ แต่จะไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางการแลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมา ครั้งนี้ สองฝ่ายแสดงกับประชาคมโลกอย่างชัดเจนว่า มีความจริงใจ ความสามารถและสติปัญญาในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีนกับเวียดนาม รักษาสันติภาพของทะเลจีนใต้ และขยายผลประโยชน์ร่วมกัน ลดและควบคุมข้อขัดแย้ง
Yim/Lr
