วันที่ 22 ตุลาคมนี้ สภาเทศบาลกรุงมะนิลาผ่านมติให้นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลากล่าวขอโทษต่อประชาชนฮ่องกงกรณีจับตัวประกันชาวฮ่องกง และทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมปี 2010 และหวังว่า ประชาชนฮ่องกงของจีนจะให้อภัย

สื่อมวลชนฟิลิปปินส์รายงานว่า มติของสภาเทศบาลกรุงมะนิลาระบุว่า เนื่องจากเหตุการณ์จับตัวประกันเกิดขึ้นในกรุงมะนิลา และเทศบาลกรุงมะนิลาเป็นฝ่ายรับผิดชอบใช้ปฏิบัติการช่วยผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จึงต้องให้นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลาเป็นผู้รับผิดชอบการทำความเข้าใจ และปรับปรุงความสัมพันธ์กับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แหล่งข่าวยังแจ้งว่า นายโจเซฟ เอสตราดา นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลาจะนำมติฉบับนี้ไปยังฮ่องกงด้วยตนเอง ด้านนายโจเซฟ เอสตราดา กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะเดินทางไปเยือนปักกิ่งในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะแวะไปยังฮ่องกงช่วงขากลับ เพื่อทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฮ่องกง และจะขอให้หน่วยงานเหล่านี้ยกเลิกคำเตือนในการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์

สื่อมวลชนฟิลิปปินส์ยังรายงานว่า นายโจเซฟ เอสตราดา นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์คนแรกที่กล่าวขอโทษต่อผู้ประสบเคราระห์ร้ายจากเหตุการณ์จับตัวประกันหลังเกิดเหตุเป็นเวลา 3 ปี อย่างไรก็ตาม มติของสภาเทศบาลกรุงมะนิลาไม่ได้ขอความเห็นชอบจากกระทรวงการต่างประเทศ และทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ จึงไม่นับเป็นความเห็นของรัฐบาลฟิลิปปินส์

ต่อการนี้ เครือข่ายการสื่อสารมวลชนของ ฟิลิปปินส์ (GMA) อ้างคำชี้แจงของนายมอเรนอ (Isko Moreno) รองนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลาว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงมะนิลาและฮ่องกงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์จี้สังหารตัวประกันค่อยๆฟื้นฟูดีขึ้น การผ่านมติของสภาเทศบาลกรุงมะนิลาฉบับนี้ไม่ใช่เพื่อสร้างความไม่พอใจมากขึ้น แต่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนกรุงมะนิลา

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำพูดของนายลูช เกมพิส (Luch Gempis) เลขานุการเทศบาลกรุงมะนิลาว่า เทศบาลกรุงมะนิลาต้องยอมรับว่า ปฏิบัติการช่วยตัวประกันเมื่อ 3 ปีที่แล้วไม่เหมาะสม

วันที่ 20 กันยายนปี 2010 รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศรายงานการสอบสวนเหตุการณ์จับตัวประกันครั้งนี้ โดยเสนอให้ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ รัฐบาล 15 คนที่บกพร่องในหน้าที่ แต่จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่เหล่านี้ยังไม่ได้ถูกยื่นฟ้อง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ไม่ได้แสดงคำขอโทษ และไม่ได้ชดเชยความเสียหายแก่ผู้ประสบเคาระห์ร้าย เมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีเบนิโญ อาคิโนของฟิลิปปินส์เดินทางไปอินโดนีเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปค เขาก็ไม่ยอมกล่าวขอโทษเช่นกัน กล่าวเพียงว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์จับตัวประกันครั้งนั้น

(YIN/cai)