วันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา การประชุมคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 12 ครั้งที่ 5 สิ้นสุดลงและได้อนุมัติการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ที่ประกาศใช้มาเป็นเวลา 20 ปี โดยฉบับแก้ไขใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม(วันคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคสากล) ปี 2014 เป็นต้นไป
สาระสำคัญเด่นๆ ที่เพิ่มเติม อาทิ ผู้ประกอบการต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวผู้บริโภคเป็นความลับ ห้ามเผยแพร่ ขายต่อ และไม่สามารถส่งข้อมูลเชิงธุรกิจให้หากไม่ได้รับการยินยอมจากผู้บริโภค เนื่องจากกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ครอบคลุมเพียงร่างกายและทรัพย์สินของผู้บริโภคไม่ได้รับความเสียหาย ละเลยในเรื่องปัญหาข้อมูลส่วนบุคคลที่รั่วไหลจากปัจจัยต่างๆ เช่น จากการซื้อของออนไลน์ ที่ผู้ประกอบการหรือบริษัทนำส่งสินค้าบางรายนำข้อมูลติดต่อส่วนตัวของผู้ซื้อไปค้าหาผลกำไรโดยไม่ได้รับอนุญาตดังที่เป็นข่าว
สอง) หากถูกหลอกขายสินค้า ผู้บริโภคจะได้รับการชดใช้ความเสียหายเป็นมูลค่า 3 เท่าของราคา ทั้งนี้ เนื่องจากข้อบังคับเดิมลงโทษปรับเพียง 1 เท่า ทำให้มีผู้ประกอบการไม่น้อยรายรู้ผิดก็ยังกล้าทำผิด เพราะผลกำไรที่ได้รับมากเกินกว่าโทษปรับที่จะเสีย ซึ่งบทลงโทษใหม่นอกจากเพิ่มโทษปรับเป็นสามเท่า ยังกำหนดว่าหากมูลค่าชดเชยไม่ถึง 500 หยวน ให้ถือเป็น 500 หยวน
สาม) สินค้าเพื่อสุขภาพหรือบริการที่มีการโฆษณาเกินจริง พรีเซนเตอร์จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย เนื่องจากเดิมไม่มีการควบคุมในส่วนนี้ ทำให้ดาราคนดังในสังคมขาดการพิจารณาให้รอบคอบ ตกลงเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโฆษณาที่เกินจริง อย่างเช่นคำโฆษณาชาสมนุไพรว่าสามารถลดน้ำหนักขับไขมันได้ด้วยสูตรลับเฉพาะ, ยาสระผมปราศจากส่วนผสมที่เป็นสารเคมี หรือขนมปังไร้สารเติมแต่ง เป็นต้น
สี่) หากสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ของไม่ถูกใจสามารถคืนได้ภายใน 7 วัน โดยผู้ประกอบการจะทำการคืนเงินให้กับผู้บริโภคภายในเจ็ดวันหลังได้รับสินค้าคืน ทั้งนี้ หากไม่มีข้อตกลงต่างหาก ผู้บริโภคจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการส่งคืนสินค้าเอง และเพื่อความยุติธรรมหากเป็นสินค้าที่ผู้ซื้อสั่งทำพิเศษ เป็นของสดสามารถเน่าเสียได้ ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ หรือเป็นประเภทนิตยสาร หนังสือพิมพ์ ฯลฯ ที่มีการตกลงกับผู้บริโภคก่อนซื้อขายแล้วจะเป็นกรณียกเว้นไม่สามารถคืนได้
ห้า) หากผู้บริโภคมีปัญหาในการซื้อของ อาทิ ได้สินค้าไม่ตรงกับข้อมูลที่ทางร้านแสดง หรือไม่ได้รับสินค้า เวทีแลกเปลี่ยนซื้อขายออนไลน์จะรับผิดชอบคืนเงินให้ก่อน ทั้งนี้ จากเดิมที่เป็นเพียงความสมัครใจของทางร้านค้าในการเข้าร่วมเงื่อนไขจ่ายเงินประกันกับเว็บไซต์ตัวกลางการซื้อขายสินค้าออนไลน์ แต่กฎใหม่จะบังคับให้ทุกร้านต้องเข้าร่วม ทำให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองไปโดยปริยาย
หก) การขายสินค้าปลอมหรือบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากโดนปรับแล้วยังจะถูกบันทึกลงในแฟ้มความน่าเชื่อถือที่ประกาศสู่สาธารณะ ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้บริโภคมักจะตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถูกริดรอนสิทธิร้องเรียนไปโดยปริยายด้วยข้อความประกาศทำนองว่า "ทางร้านสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า" แต่หลังการบังคับใช้กฎใหม่ในปีหน้าจะทำให้ร้านขายของปลอมที่จะปัดความรับผิดชอบเหล่านี้ ต้องถูกตีตรามีชื่อในบัญชีดำเป็นที่รับรู้ของสังคม
แม้ว่าการปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเหล่านี้ จะมีข้อบังคับใหม่เพิ่มเติมที่น่าสนใจและครอบคลุมมากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายเสียงสะท้อนว่า แม้จะเพิ่มโทษปรับแต่ก็ยังคงเบาไป แต่ก็เชื่อว่าการดำเนินงานและบังคับใช้ที่เข้มงวดจริงจังจะช่วยคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้ผลจริง
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府