เมื่อเดือนมกราคมนี้ หลังรับตำแหน่งยังไม่ถึงเดือน นายชินโซ อาเบะก็ได้เดินทางเยือนเวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากภารกิจการทูตกับกกลุ่มประเทศอาเซียน ระหว่างการเยือน นายชินโซ อาเบะรับปากจะให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ประเทศที่ไปเยือน เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมการลงทุนที่ดีให้แก่บริษัทญี่ปุ่นที่จะไปลงทุนในประเทศเหล่านี้ นอกจากนี้ นายชินโซ อาเบะยังประโคมสิ่งที่เรียกว่า ลัทธิสันติภาพเชิงรุก และพยายามกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อขยายบทบาทด้านการทหารของญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้
หลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายชินโซ อาเบะเริ่มใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมาก และนโยบายการคลังที่มีความยืดหยุ่น พร้อมทั้งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ทั้งนี้เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่น และกระตุ้นให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเจริญเติบโตขึ้น วัตถุประสงค์สำคัญประการหนึ่งในการเยือนประเทศอาเซียนของนายชินโซ อาเบะคือ แสวงหาประโยชน์จากความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อสร้างโอกาสแก่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น นายชินโซ อาเบะกล่าวระหว่างเยือนประเทศลาวว่า หากไม่มีการพัฒนาที่เข้มแข็งของกลุ่มประเทศอาเซียน ก็จะไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นขาดอาเซียนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เห็นว่า นายชินโซ อาเบะยิ่งให้ความสำคัญกับการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลกับประเทศอาเซียน เช่น เขาเคยรับปากกับฟิลิปปินส์ว่า จะเสนอเรือลาดตระเวณ 10 ลำและเครื่องอุปกรณ์การสื่อสารจำนวนหนึ่งให้แก่หน่วยรักษาความมั่นคงชายฝั่งของฟิลิปปินส์ เพื่อช่วยเสริมทักษะการรักษาความมั่นคงชายฝั่งของกองกำลังดังกล่าวให้เข้มแข็งขึ้น ระหว่างเยือนประเทศลาว ญี่ปุ่นและลาวเห็นพ้องกันว่า จะเปิดการเจรจาในประเด็นความมั่นคงระหว่างเจ้าหน้าที่การทูต และระหว่างเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ นายชินโซ อาเบะยังเสนอว่า จะช่วยประเทศอาเซียนอบรมเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรักษาความมั่นคงชายฝั่ง
นักวิเคราะห์เห็นว่า การเยือนกลุ่มประเทศอาเซียนของ นายชินโซ อาเบะมีวัตถุประสงค์ที่จะแสวงหาประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจของอาเซียน และขยายบทบาทของญี่ปุ่นในกลุ่มประเทศอาเซียนโดยผ่านการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศเหล่านี้ ทั้งนี้จะปูทางให้แก่ญี่ปุ่นในการเข้ามามีส่วนร่วมกิจการทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก และทำให้ญี่ปุ่นมีบทบาทมากขึ้นบนเวทีโลก
(YIN/cai)