กรุงเทพฯ - 27 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10.30 น. ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนเซ็นสัญญาตกลงความร่วมมือบัตรเครดิต"ยูเนี่ยนเพย์กสิกรไทย" เพื่อรองรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าคนไทยให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ของประเทศจีน (รวมถึงฮ่องกง มาเก๊า)และอีกกว่า 140 ประเทศทั่วโลกโดยงานแถลงข่าวจัดขึ้นที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาพหลโยธิน

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทยเปิดเผยว่า กลุ่มเป้าหมายสำหรับบัตร"ยูเนี่ยนเพย์กสิกรไทย" คือกลุ่มนักธุรกิจชาวไทยที่เดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ประเทศจีน, นักเรียนนักศึกษาไทยในจีนรวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังจีน ฮ่องกงและมาเก๊า นอกจากนี้ยังรวมถึงกลุ่มชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นผู้ออกบัตรเครดิตยูเนี่ยนเพย์มากที่สุดในประเทศไทย-1 แสนใบภายใน 1 ปี การออกบัตรในครั้งนี้เป็นบัตรเครดิตยูเนี่ยนเพย์แบบชิป (chip) ใบแรกของไทย เป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารฯที่จะพัฒนาการบริการด้านการชำระเงินให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจในประเทศจีนให้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านร้านค้ารับบัตรเครดิตและเดบิต, การเบิกถอนเงินสดจากเครื่อง ATM ไปจนถึงการออกบัตรเครดิตยูเนี่ยนเพย์กสิกรไทยผู้ถือบัตรฯนี้จะได้รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ได้รับคะแนนสะสม 2 เท่าจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยูเนี่ยนเพย์กสิกรไทยที่ประเทศจีน, ได้รับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศพิเศษเมื่อแลกสกุลเงินหยวน (CNY)และดอลล่าร์ฮ่องกง (HKD), ส่วนลดจากสนามกอล์ฟและโรงแรม โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา

ด้านนายสือ เหวินเฉา กรรมการผู้จัดการบริษัทยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การร่วมออกบัตรฯครั้งนี้ เป็นการขยายธุรกิจบัตรเครดิตในเมืองไทยกับธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงเป็นอันดับหนึ่งในปีที่ผ่านมา ส่วนทางยูเนี่ยนเพย์ ซึ่งเข้ามาดำเนินธุรกิจในตลาดไทยเป็นเวลา 7 ปีแล้ว ปัจจุบันเครื่อง ATM เกือบทั้งหมดและร้อยละ 60 ของร้านค้าในประเทศไทยรองรับการทำธุรกรรมด้วยบัตรยูเนี่ยนเพย์ทางบริษัทฯให้ความสำคัญต่อการร่วมมือกับสถาบันการเงินกระแสหลักในท้องถิ่นเนื่องจากการติดต่อไปมาหาสู่ทั้งด้านการค้าขายและท่องเที่ยวนับวันมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการชำระเงินข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้นด้วยอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและบริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและจีนให้ดียิ่งขึ้นไป

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿