การชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลยูเครนดำเนินมาต่อเนื่องกันเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากรัฐบาลไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งตามข้อเสนอของฝ่ายค้าน ด้านสหรัฐฯ กล่าวว่า กำลังติดตามการเคลื่อนไหวของรัฐบาลยูเครนอยู่ อาจมีความเป็นไปได้จะใช้มาตรการคว่ำบาตรยูเครน
ในระหว่างการชุมนุม ผู้ประท้วงได้ตั้งสิ่งกีดขวางและกระโจมบนทางหลวง รอบๆจตุรัสเอกราชใจกลางของกรุงเคียฟ ทำให้จราจรติดขัด ในเวลาต่อมาคืนวันที่ 10 ธันวาคมถึงเช้าตรู่วันที่ 11 ธันวาคม ตำรวจยูเครนเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างสิ่งกีดขวางและรื้อกระโจมของผู้ชุมนุม แต่ถูกต่อต้านเกิดการปะทะกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ปฏิบัติการกวาดล้างได้ยุติลงช่วงกลางวันของวันที่ 11 ธันวาคม
การกระทำของตำรวจยูเครนถูกประเทศตะวันตกประณาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่อาจยอมรับการกระทำของรัฐบาลยูเครน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาคว่ำบาตรทางการเมืองและเศรษฐกิจ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เคยกล่าวว่า สหรัฐฯไม่พอใจต่อการกระทำของรัฐบาลยูเครน
ขณะที่สภาดูมาหรือสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย เคยแถลงประณามว่าประเทศตะวันตกแทรกแซงกิจการภายในของยูเครน และหวังว่าวิกฤติของยูเครนได้รับการแก้ไขอย่างสันติ
ด้านประธานาธิบดียูเครน ได้เชิญชวนผู้แทนจากฝ่ายต่างๆ รวมทั้งผู้แทนด้านศาสนาทั่วประเทศเข้าร่วมเจรจา เพื่อแก้ไขวิกฤติการเมืองโดยเร็ว
การประท้วงในยูเครนเริ่มปะทะมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.โดยข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมคือการที่ประธานาธิบดียานูโควิชและคณะรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบการเป็นฝ่ายปฏิเสธลงนามในข้อตกลงทางเมืองและเศรษฐกิจฉบับสำคัญกับสหภาพยุโรป (อียู) แต่กลับจะไปสานสัมพันธ์ทางการค้ากับรัสเซียแทน
ด้านประธานาธิบดียูเครนได้สั่งปล่อยตัวผู้ประท้วงบางรายที่ถูกจับกุมเมื่อวันอังคาร เพราะไม่ต้องการสถานการณ์ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งกล่าวว่ายูเครนยังคงสนใจที่จะเข้าเป็นสมาชิกอียู
(NUNE/zheng)