สำหรับการแสดงของประเทศไทย มี 4 ชุด ได้แก่
1. ชุด "รำถวายพระพร" (Blessing Dance) เป็นการแสดงชุดดั้งเดิม ตัดท่อนที่มีสำเนียงดนตรีจีน มาประกอบการร่ายรำ จากคณะศิลป์นาฎดุริยางค์ กรมศิลปากร
2. ชุด "สักการะเทวราช" (Worshipping the God King) เป็นการแสดงชุดสร้างสรรค์ใหม่ มีต้นเค้ามาจากพระราชพิธีอินทราภิเษกในสมัยอยุธยาตอนต้น จัดในวาะเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ตามความเชื่อในลัทธิเทวราชา ว่าพระมหากษัตริย์เป็นอวตารของพระอินทร์ เป็นกษัตริย์ของเทวดาทั้งปวง
จากคณะศิลป์นาฎดุริยางค์ กรมศิลปากร
3. ชุด "สรีระนาฎยไทย" (Contemporary Dance with Classical Thai Movements) จากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เป็นการแสดงร่วมสมัย ประยุกต์และดัดแปลงจากท่ารำของนาฎศิลป์โขนและลีลาท่าทางของมวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัว เน้นจังหวะ ทิศทาง และการรำเท้า
4. การแสดงร่วมสมัย ชุด "ครู" (The Master) โดยผู้ช่วยศาตราจารย์ ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินพื้นบ้านอาวุโส ผู้เชี่ยวชาญ "โนรา" ร่วมกับ มานพ มีจำรัส ศิลปินรางวัลศิลปาธร นักแสดงร่วมสมัย อาจารย์ อานันต์ นาคคง คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้เชี่ยวชาญงานดนตรีในอุษาคเนย์ โดยมีศิลปินจากสิงคโปร์ ร่วมเล่นดนตรี "ผีผา" ของจีน สร้างสรรค์งานแสดงที่ผสมผสานระหว่างความเป็นเอกของศิลปะที่ศิลปินแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญ ทั้งการร่ายรำผ่านวิธีการสาธิตการนุ่ง "โจงกระเบน" ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานและขั้นต้นสำหรับทุกคนที่ต้องการเรียนรู้นาฎศิลป์ ที่ต้องเรียนรู้ ผนวกกับ โนราพื้นบ้านภาคใต้ของไทย ดนตรีของไทย ขลุ่ย กลอง เล่นร่วมกับผีผา ภายใต้แนวคิดหลักคือ "ครู" กำกับการแสดงโดย ครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน