วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นไปคารวะศาลเจ้ายาซูคูนิ สื่อมวลชนทั้งญี่ปุ่นและประเทศต่างๆทั่วโลกทยอยกันออกบทความ โดยวิจารณ์นายชินโซ อาเบะที่ทำตามอำเภอใจ ซึ่งจะคุกคามเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 27 ธันวาคมนี้ หนังสือพิมพ์ New York Times ของสหรัฐฯออกบทความชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่นายชินโซ อาเบะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นต้นมา เขามุ่งมั่นในการส่งเสริมให้กำลังทหารญี่ปุ่นเปลี่ยนแนวทางเชิงรักษาให้เป็นแบบเชิงรุก การคารวะศาลเจ้ายาซูคูนิก็เป็นขั้นตอนหนึ่งในแผนการดังกล่าว โดยตั้งเป้าหมายในที่สุดว่า จะปรับปรุงรัฐธรรมนูญสันติภาพ ซึ่งจำกัดการก่อสงครามของญี่ปุ่นอย่างเข้มงวด สหรัฐฯต้องให้นายชินโซ อาเบะเข้าใจว่า แผนการของเขาดังกล่าวไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของภูมิภาค และทำให้สหรัฐฯเกิดความไม่ไว้วางใจแล้ว
วันที่ 27 ธันวาคมนี้ หนังสือพิมพ์ The Chosun ilbo ของเกาหลีใต้ได้ลงบทความว่า การกระทำดังกล่าวของนายชินโซ อาเบะแสดงให้เห็นว่า ในปัญหาทางประวัติศาสตร์และข้อขัดแยงด้านดินแดน ญี่ปุ่นกำลังเป็นปฏิปักษ์ทางทหารและทางการทูตกับเกาหลีใต้และจีน
วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์เหลียนเหอเจ่าเป้าของสิงคโปร์ออกบทความว่า การคารวะศาลเจ้ายาซูคูนิอาจมีส่วนช่วยต่อการช่วงชิงประโยชน์ทางทางการเมืองภายในประเทศของนายชินโซ อาเบะ แต่จะเป็นผลร้ายต่อสภาพส่วนรวมทางการเมือง ประชาชนที่เคยถูกญี่ปุนรุกรานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่อาจยอมรับได้อย่างเด็ดขาด
วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ของญี่ปุ่นออกบทความว่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ชาวญี่ปุ่นเคยให้คำสัญญาว่าจะไม่ก่อสงครามขึ้นอีกต่อไป แต่นายชินโซ อาเบะคารวะศาลเจ้ายาซูคูนินั้น ได้แสดงท่าทีของเขาซึ่งมีแนวคิดตรงกันข้าม รัฐบาลของชินโซ อาเบะมุ่งจะปรับปรุงแก้ไขหลักการส่งออกอาวุธ 3 ประการ และรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าจะพัฒนาตามหนทางสันติภาพนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกว่า เป็นคำหลอกลวง